Page 43 - 0006
P. 43
34
ิ
การวิจัยเชงปฏบัติการ หมายถง การแสวงหาความรู้ภายใต้การด าเนินการของนักปฏบัติที่
ิ
ิ
ึ
ิ
ิ
กลายมาเป็นนักวจัย หรือผู้ซึ่งท างานเป็นหุ้นส่วนกับนักวจัย เพื่อตรวจสอบประเด็นและปัญหาใน
ิ
ิ
สถานที่ท างานของตนเอง เป็นการน าความคดไปปฏบัติผ่านกระบวนการที่เป็นวงจร ซึ่งแต่ละวงจะ
้
ิ
ี
ิ
ิ
ขึ้นกับวงก่อนหน้า ซึ่งนักวจัยสามารถใชวธการเก็บและรวบรวมขอมูลได้หลากหลายวธการวจัยเชง
ี
้
ิ
ิ
ปฏิบัติการ เป็นทั้งการวิจัยและการปฏิบัติการ (Holloway, 2010)
กล่าวโดยสรุปคือ การวจัยเชงปฏบัติการเป็นวจัยที่มีกระบวกการแก้ปัญหาในองคกรโดยที่
ิ
ิ
์
ิ
ิ
้
์
ิ
ผู้วจัยกับบุคลากรในองคกรนั้น ๆ ร่วมมือแก้ปัญหาร่วมกัน และมีการบันทึกขอมูลอย่างเป็นระบบ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ที่ได้วางไว ้
2.4.2 การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory action research)
ิ
ุ
ื
ิ
ิ
ี
ิ
ิ
การวจัยเชงปฏบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) ถอเป็นหนึ่งในวธวจัยเชงคณภาพ ที่ควร
ิ
พิจารณาและท าความเข้าใจ (Cathy MacDonald, 2012) การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เป็น
รูปแบบของการวิจัยแบบใหม่ ที่ประยุกต์และเป็นการรวมเอาแนวความคิดของการวิจัยเชงปฏบัติการ
ิ
ิ
(Action Research) กับการวจัยแบบมีส่วนร่วม (Participatory Research) มาผสมผสานเขา
ิ
้
ด้วยกัน (สุภางค์ จันทวานิช, 2531) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาสังคมผ่านการมีส่วนร่วมของหลาย
ิ
้
ื
ฝุายทั้งภาครัฐและภาคประชาชน และที่ส าคญคอการเขาไปมีบทบาทของนักวจัยต่อการพัฒนาใน
ั
พื้นที่ถือเป็นความส าคัญของการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมและได้รับผลประโยชน์ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมมากขึ้น
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพพื้นฐาน (ส านักงานคณะกรรมการแผนพัฒนาการ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2555) ดังนั้น กระบวนการพัฒนาระบบการจัดการซะกาตของ
คณะกรรมการอิสลามประจ าจังหวัดสตูลและจังหวัดพัทลุงจึงเลือกใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วน
ร่วม (PAR) เพื่อให้การพัฒนาระบบซะกาตสามารถพัฒนาได้ยั่งยืนโดยความร่วมมือของหลายฝุายอาทิ
ิ
่
้
เชน ภาคประชาชน กลุ่มนักวจัย และภาครัฐในพื้นที่ที่มีขอมูลของประชาชนทั้งรายได้ต่อครัวเรือน
รวมถึงจ านวนประชากรในพื้นที่ เพื่อให้การด าเนินงานวิจัยเป็นไปอย่างราบรื่นและเพื่อไม่ให้เป็นการ
เก็บข้อมูลที่ซ้ าซ้อน การร่วมท างานแบบพหุภาคีโดยหลายฝุายต่างมีบทบาทส าคัญในการพัฒนาสังคม
ิ
ี
ึ้
ให้ดีขน ด้วยวธการร่วมวางแผน ปฏบัติ สังเกต และสะท้อนผลที่ได้รับ และร่วมแก้ไขด้วยกัน
ิ
(Maggie Coats, 2005) ถอเป็นหนึ่งเครื่องมือวจัยที่สามารถกระตุ้นจิตใจแห่งความชวยเหลือ
ื
่
ิ
เอื้ออาทรต่อปัญหาความยากจนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ปัญหาความยากจนและความเลื่อมล้ าทาง
เศรษฐกิจได้ลดลงหรือหมดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด