Page 18 - 071
P. 18

1







                                                                บทที่ 1



                                                                 บทนํา




                       1.1 ความสําคัญและที่มาของงานวิจัย



                              ในปจจุบันการปลอยกาซคารบอนไดออกไซดจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือจากการใชรถยนต 

                       เพิ่มมากขึ้น ผลกระทบที่เกิดจากการปลอยกาซดงกลาวกอใหเกิดปญหาที่ทําใหเกิดสภาวะโลกรอน
                                                               ั
                                                                                                 
                       และปรากฏการณเรือนกระจก และความรอนเหลานี้ยังเปนปญหาทําใหอาคาร บานเรือนตาง ๆ รอน
                                                                                                   ิ
                       ไปดวย การกอสรางอาคารจึงจําเปนตองใชวัสดุที่ชวยกันความรอนจากภายนอกอาคาร สมบัตการเปน
                                                                
                                          ี
                                                                ั
                       ฉนวนกันความรอนที่ดของวสดจึงเปนปจจัยสําคญอยางหนงในการกอสรางอาคาร (Abdel et al.,
                                                                         ึ่
                                                 ุ
                                              ั
                                                                    
                                                                                                        ุ
                                                                                              ี
                                                                 ั้
                                     
                                                                                                  
                       2011) ปูนซีเมนตหรืออิฐบล็อกมากอสรางอาคารนนมีความเปนฉนวนความรอนไมดพอ ดวยเหตน   ี้
                       ผูวิจัยจึงมีความคิดที่จะหาวัสดผสมมาใช คอ ยางธรรมชาตเบลนดยางรีเคลมและพอลิเอทิลีนความ
                                                                              
                                                                        ิ
                                                ุ
                                                          ื
                                                        
                       หนาแนนต่ํา เพื่อใหไดวัสดุกันความรอนที่ดแลวชวยในการแกไขปญหาดงกลาวและเพื่อเพิ่มปริมาณ
                                                          ี
                                                               
                                                                                  ั
                       การใชยางธรรมชาติภายในประเทศ อีกทั้งยังเปนการนํายางที่ใชแลวกลับมาใชใหมเพื่อชวยลดปริมาณ
                              
                                                              
                                                                              ึ้
                       ยางที่ใชแลว ซึ่งในปจจุบันมียางที่ผานการใชงานมาแลวมีเพิ่มขนเรื่อย ๆ กอใหเกิดมลภาวะอีก
                                                                                                         
                                                                                        
                                                                                 
                       เชนเดียวกัน เพราะยางเหลานี้ไมสามารถยอยสลายไดงายและเวลาที่ใชในการยอยสลายนนนานกวา
                                                                                                 ั้
                                                                                                      
                       ผลิตภณฑสังเคราะหชนดอื่น (Abdel et al., 2011) เชนเดยวกันกับพอลิเอทิลีนความหนาแนนตา
                                                                                                         ่ํ
                                           ิ
                                                                         ี
                                                                     
                            ั
                                                                ึ่
                                                                                        
                                                                                            
                                                                     
                                                                          
                                                        ิ
                                                            ิ
                       (LDPE)  (เศษแผนฟลม)  ซึ่งเปนพลาสตกชนดหนงที่ใชกันอยางแพรหลาย เชน ใชบรรจุอาหาร ใช 
                                                                      ํ
                                       
                                                                                                 ุ
                                                                                               ี
                                                                                              
                       ถนอมอาหาร เปนตน เศษแผนฟลม LDPE ยงสามารถนามาเบลนดกับยางรีเคลมไดด คณสมบัตที่
                                                             ั
                                                                                
                                                                                                        ิ
                       สําคัญของเศษแผนฟลมคือ มีความยืดหยุนไดดี ลักษณะชิ้นงานจะนิ่มและสามารถเพิ่มการเปนฉนวน
                       ความรอนไดอีก
                              การเปนฉนวนกันความรอนนนสามารถทดสอบไดโดยใชหลักการสงผานความรอน ใชชด
                                                                              
                                                       ั้
                                                                        
                                                                                                        ุ
                                                                                                       
                                     ู
                                                                                                         
                                                                                  ู
                       ทดสอบที่มีสองต ปลอยความรอนจากตที่ 1  ผานแผนตวอยางไปยงตที่ 2 แลวนาไปคานวณหาคา
                                                                                               ํ
                                                                                           ํ
                                                                               ั
                                                                          
                                                        ู
                                                                      ั
                                 ิ์
                                      ํ
                                                                                                        ื
                                                                                 ื
                                                                                                    T
                       สัมประสิทธการนาความรอนจากสมการ  q k T       / x   เมื่อ  qคอ ฟลั๊กความรอน,    คอ
                                                                     
                                                             
                                                                .
                                                                
                       อุณหภมิตางระหวางผิวของวสดที่มีการสงผานความรอน และ  x  คอ ความหนาของชนทดสอบ
                                                                                                 ิ้
                                                                                  ื
                               
                            ู
                                      
                                                  ุ
                                               ั
                                                                             
                                                                                                        ื
                                                                     ิ
                                                                                         ิ
                                                                              ึ
                                                                                       ิ
                                   ึ
                                                                            
                                                                                                     ั้
                                                                         ั
                                                                                                 
                       นอกจากการศกษาการเปนฉนวนกันความรอนแลวผูวจัยยงไดศกษาสมบัตเชงกลอีกดวย นนคอ
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23