Page 28 - 067
P. 28

14






                       ค่าสูงกว่าร้อยละ 24  เทียบกับชุดที่ไม่มีการบ้าบัดเบื้องต้น ผลการทดลองบ่งชี้ว่าการบ้าบัดเบื้องต้น
                       ด้วยวิธีเคมี-ความร้อนร่วมกับวิธีอลคาไลน์เป็นวิธีที่มีประสิทธิผลส้าหรับการย่อยสลายไร้อากาศของ
                                                   ั
                       พรรณไม้น้้าที่มีลิกนินในปริมาณสูง อย่างไรก็ตามการเติม NaOH ปริมาณสูงสามารถยับยั้งการผลิต
                       มีเทนได้เนื่องจากการเพิ่มการละลายของลิกนินในสารที่ถูกย่อยได้

                                Toru and Koike (2010) ได้ท้าการศึกษาการผลิตแก๊สมีเทนจากการร่วมย่อยสลายของ
                                                                                                   ั
                       สาหร่ายทะเลและนมในโรงงานต้นแบบ สาหร่ายทะเลที่น้ามาใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นสายพนธุ์ที่พบ
                       ได้ทั่วที่ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Laminaria sp. และ Ulva sp. โดยการน้าสาหร่ายมาผสมกวนกับนมซึ่ง
                       เป็นซับสเตรตหลักในการหมักในอตราส่วนและปริมาณที่แตกต่างกัน พบสามารถผลิตแก๊สมีเทนมีค่า
                                                   ั
                                         3
                       อยู่ในช่วง 0.2-0.3  m -CH /Kg-COD  และความเข้มข้นของกรดอนทรีย์หลังการหมักมีค่าน้อยกว่า
                                                                               ิ
                                              4
                                                                                                 ื่
                       1200 ppm เมื่อถังปฏิกรณ์เข้าสู่สภาวะคงตัว ผลจากการศึกษาได้แสดงถึงสภาวะการเพอผลิตแก๊ส
                       ชีวภาพ ที่มีความเสถียรในการใช้สารอนทรีย์ชนิดอนเช่นนมเข้าย่อยสลายร่วม ซึ่งช่วยลดความ
                                                        ิ
                                                                   ื่
                       แปรปรวนของกระบวนการ ซึ่งเกิดจากย่อยสลายเฉพาะสาหร่ายทะเลได้ งานวิจัยนี้ได้แสดงให้เห็น
                       ศักยภาพของการใช้สาหร่ายทะเลส้าหรับการผลิตแก๊สชีวภาพ
                                Yen  and  Brune  (2007)  เนื่องจากสาหร่ายมีสัดส่วนระหว่าง C/N  ต่้า ซึ่งเป็นปัจจัย
                                                                                              ิ่
                       ข้อจ้ากัดหลักต่อกระบวนการย่อยสลายแบบไร้อากาศ ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงได้ท้าการเพมส่วนของธาตุ
                                                                              ื่
                       คาร์บอนที่ได้จากของเสียกระดาษผสมกับสลัดจ์ของสาหร่ายเพอให้ได้สัดส่วนที่สมดุลของ C/N
                       ส้าหรับการย่อยสลายร่วมแบบไร้อากาศระหว่างสลัดจ์ของสาหร่ายและของเสียกระดาษ ที่สภาวะ
                                                    ิ
                                      ั
                        ุ
                       อณหภูมิ 35ºC  อตราบรรทุกสารอนทรีย์ 4  g-VS/d.L  และระยะเวลากักเก็บของของเหลว 10  วัน
                       จากผลการทดลองพบว่าการเติมของเสียกระดาษร้อยละ 50 (บนฐานสารอนทรีย์ระเหยได้ (VS))  ได้
                                                                                     ิ
                       อัตราการผลิตมีเทน 117375 mL-CH /d.L ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่าเมื่อเทียบกับอตราผลิตมีเทน
                                                                                              ั
                                                       4
                       57328  mL-CH /d.L ซึ่งได้จากการย่อยสลายสาหร่ายเพยงอย่างเดียว อตราการผลิตสูงสุดเท่ากับ
                                                                        ี
                                                                                     ั
                                      4
                       160717 mL-CH /d.L เกิดจากการใช้อตราป้อนสารอนทรีย์ 5g-VS/d.L โดยการเติมของเสียกระดาษ
                                                                   ิ
                                                        ั
                                      4
                       ร้อยละ  60  (VS  Basis) ผสมกับของสลัดจ์ของสาหร่าย จากผลการวิจัยในครั้งนี้พบค่าสัดส่วนที่
                       เหมาะสมของ C/N อยู่ในช่วง 20-25/1
                                Zhong et al. (2012) ศึกษาการผลิตแก๊สชีวภาพโดยการย่อยสลายร่วมแบบไร้อากาศ
                       แบบแบตช์ของสาหร่ายสีน้้าเงิน (Taihu) โดยใช้ซังข้าวโพดเป็นแหล่งคาร์บอน เพอประเมินผลกระทบ
                                                                                         ื่
                       ของการเติมของซังข้าวโพดซึ่งมีปริมาณคาร์บอนสูงส้าหรับการย่อยสลายของสาหร่ายไท่หูสีน้้าเงิน
                       เพื่อให้ได้อัตราส่วน C/N ที่เหมาะสมส้าหรับการผลิตมีเทนให้ได้ผลผลิตที่สูงขึ้น การเติมซังข้าวโพดใน
                       สาหร่ายที่อัตราส่วน C/N ที่ 20/1 ให้ผลผลิตของมีเทนเพมขึ้นร้อยละ 61.69 คือ 325 mL-CH /g-VS
                                                                      ิ่
                                                                                                    4
                                                                                            ั
                                                                               ี
                       (เปรียบเทียบกับ 201 mL-CH /g-VS ของการย่อยสลายสาหร่ายเพยงอย่างเดียว) อตราส่วน C/N ที่
                                                4
                                                                    ุ
                       16/1 และที่  25/1  ด้าเนินการที่  20  g-VS/L และอณหภูมิ 35ºC  ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า
                       อัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุดของ C/N ส้าหรับการย่อยสลายร่วมกับซังข้าวโพดที่อัตราส่วน C/N ที่ 20/1

                         2.2.2 การผลิตแก๊สชีวภาพหรือแก๊สไฮโดรเจนจากน้้าทิ้งโรงงานสกัดน้้ามันปาล์ม
                                POME เป็นซับสเตรตที่มีศักยภาพสูงทั้งในการผลิตแก๊สไฮโดรเจนและแก๊สมีเทน ดังนั้น

                       จึงมีการศึกษาปริมาณแก๊สไฮโดรเจนและแก๊สมีเทนด้วยถังปฏิกรณ์ป้อนต่อเนื่องชนิดต่าง ๆ
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33