Page 206 - 006
P. 206

195


                          สถูป

                          สถูปมาจากคำบาลีว่าถูปะ หรือมูลดินที่เกิดจากการเผาศพแล้วรวบรวมเถ้าถ่านเป็น
                   กองไว้แล้วเอาดินเอาหินมาทับไว้เป็นเนินสูงเป็นเครื่องหมายให้เห็นชัด  ล่วงมาจนถึงสมัย
                                                                                  9
                    ุ
                                                ุ
                   พทธกาล การสร้างสถูปในพระพทธศาสนามีจุดประสงค์เพอบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและ
                                                                       ื่
                                  ุ
                   อังคารของพระพทธองค์ รวมไปถึงพระธาตุของพระอรหันต์ และบรรดาสาวกของพระบรม
                   ศาสดาอีกไม่น้อย ซึ่งนอกจากสถูปของบุคคลแล้ว ยังมีสถูปที่สร้างสำหรับบรรจุเครื่องอัฏฐ
                   บริขารของพระพุทธเจ้า มีจำพวกบาตร จีวร และสิ่งอื่นๆอีก
                          พทธเจดีย์ในศาสนาพทธแบ่งออกเป็น 4 ชนิด คือ 1) (สารีริก) ธาตุเจดีย์ สำหรับ
                                              ุ
                            ุ
                   บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพทธเจ้า แต่เดิมมีด้วยกัน 8 แห่ง ภายหลังพระเจ้าอโศก
                                                   ุ
                   ทรงรวบรวมจาก 7 แห่งที่ชำรุด แล้วแจกจ่ายไปยังดินแดนต่างๆที่นับถือพระพทธศาสนา
                                                                                          ุ
                   กล่าวกันว่ามีการก่อสร้างเจดีย์ประเภทนี้ถึง 84,000 แห่ง

                                                           ุ
                          2) บริโภคเจดีย์ คือ สถานที่ที่พระพทธเจ้าอนุญาตให้ใช้เป็นที่ระลึกเมื่อพระองค์
                   ปรินิพพานแล้ว3) อุเทสิกะเจดีย์ คือ สิ่งที่สร้างขึ้นด้วยเจตนาอุทิศแด่พระพุทธเจ้า เป็นต้นว่า
                                          ุ
                         ุ
                                                                                 ์
                   พระพทธรูป รอยพระพทธบาทจำลอง ธรรมจักร และพระพมพ 4) ธรรมเจดีย์ คือ
                                                                              ิ
                   สิ่งก่อสร้างที่บรรจุพระธรรมคำสอนของพระพทธเจ้า เช่น การนำพระธรรมจารจารึกลงบน
                                                            ุ
                   แผ่นเงิน แผ่นทอง ศิลา และพระพิมพซึ่งมักจารึกหัวใจของพระพุทธศาสนา เป็นต้นว่า คาถา
                                                    ์
                               10
                   “เย ธฺมมาฯ”
                          ลักษณะและส่วนประกอบของสถูป
                          สถูปมีลักษณะเป็นรูปโดมหรือโอคว่ำ โดยวัสดุที่ใช้มีทั้งแบบอิฐและหิน มี

                                               11
                   ส่วนประกอบของสถูปดังต่อไปนี้
                          1.  เมธิ (Medhi) ฐานสถูปมีลักษณะกลมหรือสี่เหลี่ยม

                          2.  เวทิกะ (Vedika) รั้ว ทำด้วยไม้หรือหิน ลักษณะของรั้วเป็นรูปแบบดั้งเดิมของ
                   พวกอารยันซึ่งนิยมสร้างรั้วล้อมรอบต้นไม้หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เวทิกะนี้จะมีทางเข้าอยู่ 4
                   ด้านตามทิศทั้ง 4 ซึ่งบางครั้งมีการสร้างประตูทางเข้า (Torana) อย่างสวยงามบนแนวรั้วมี

                   ภาพสลักซึ่งมักอยู่ในวงกลม แสดงภาพเล่าเรื่องพทธประวัติหรือชาดก รวมถึงการบูชา
                                                                 ุ
                   พระพุทธเจ้าที่อยู่ในรูปสัญลักษณ์ เช่น บัลลังก์ที่ว่างเปล่า เป็นต้น

                          3.  ขั้นบันได (Sopana)
                          4.  องค์ระฆังหรืออัณฑะ (Anda) รูปโดมหรือครึ่งวงกลม
                          5.  บัลลังก์ (Harmika) รูปแบบดั้งเดิมอาจนำมาจากแท่นบูชาพระเวทที่มีรั้วสี่เหลี่ยม

                   กั้นโดยรอบเพอกำหนดเขตศักดิ์สิทธิ์ หรือนำมาจากรั้วกั้นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์หรือต้นโพธิ์ เพอ
                                ื่
                                                                                                  ื่
                   สถูปเป็นดั่งเขาพระสุเมรุ บัลลังก์หรือหรรมิกาจึงเปรียบเสมือนแท่นบูชาเทพเจ้าบนเขาพระ
                   สุเมรุ

                          9  น. ณ ปากน้ำ. (2529). ความเป็นมาของสถูปเจดีย์ในสยามประเทศ. กรุงเทพฯ: ศูนย์การพิมพ์พลชัย, หน้า 2.
                          10  “เย ธมฺม เหตุปฺปภวา เตสํ ตถาคโต (อาห) เตลัญฺจโย นิโรโธจ เอวํ วาที มหาสมโณ” แปลว่า ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดน
                   เกิด (เกิดแต่เหตุ) พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติทรงสั่งสอน
                   อย่างนี้
                          11  จิรัสสา คชาชีวะ. โบราณคดีอินเดีย, หน้า 347.
   201   202   203   204   205   206   207   208   209   210   211