Page 177 - 006
P. 177

166


                   และการศาสนา อย่างไรก็ดี สังคมยังคงประกอบไปด้วยคนหลากหลายวรรณะและชุมชนซึ่ง

                   ประกอบอาชีพที่แตกต่างกัน
                           โดยทั่วไป สถานะของผู้หญิงในสังคมถือว่าสูง บทบาทของสตรีปรากฏทั้งในงาน
                   ทางด้านการเมืองและทางด้านวรรณกรรม เช่น ราชินีของพระเจ้ากฤษณะเทวะรายา

                   (Krishnadevaraya) ที่ออกรบเคียงข้างพระสวามี เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การแต่งงานในลักษณะ
                   การมีคู่สมรสเพยงคนเดียวมักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีฐานะทางสังคมที่ไม่ดี แต่กลุ่มผู้มีอันจะกิน เช่น
                                 ี
                   ชนชั้นสูงและเศรษฐีมักมีภรรยาหลายคน เห็นได้อย่างชัดเจน คือ กษัตริย์ ซึ่งมีฮาเร็มขนาดใหญ่
                   แต่น้อยคนนักที่จะได้เป็นถึงพระราชินี
                           ภายในอาณาจักรวิชัยนครนั้น ประเพณีมหานาวามิ (Mahanavami) เป็นประเพณีการ

                                                             ื่
                   เฉลิมฉลองที่สำคัญที่สุดของอาณาจักร ทำขึ้นเพอเป็นเกียรติแก่เทพทุรคาเมื่อพระนางสามารถ
                                                                               ี
                                                                                 ื่
                   สังหารปีศาจร้ายได้ งานจะมีถึง 9 วัน 9 คืนด้วยกัน มีการฆ่าสัตว์เพอเซ่นสังเวยพระแม่เป็น
                   จำนวนมาก ซึ่งจากบันทึกของชาวต่างชาติกล่าวว่า ในวันสุดท้ายของงานเทศกาลมีควาย 250
                   ตัวและแกะถึง 4500 ตัวถูกฆ่าเพื่องานเทศกาลนี้
                                                             21
                           • เศรษฐกิจและการค้า หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบทางเศรษฐกิจและสังคมใน

                   อาณาจักรวิชัยนครส่วนใหญ่แล้วมาจากบันทึกของชาวต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น นิโคโล คอนติ
                   (Nicolo Conti) อับดุล ราซซัก (Abdur Razzak) บาร์โบซา (Barbosa) และนิกิติน (Nikitin)

                   เป็นต้น ซึ่งจากการศึกษาภาวะเศรษฐกิจของประชาชนในอาณาจักรวิชัยนครของมหาลิงคัม
                   (Mahalingam) นักประวัติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยมัทราส (Madras University) พบว่า
                   สามารถแบ่งชนชั้นของประชาชนออกได้อย่างกว้างๆ 2 ชนชั้นด้วยกัน คือ กลุ่มผู้บริโภค

                   (consumers) และผู้ผลิต (producers) กลุ่มแรกคือ ชนชั้นสูงประกอบไปด้วยชนชั้นปกครอง
                   ข้าราชการ กองทัพ ตำรวจ ครู นักบวช และพอค้า ในขณะที่กลุ่มผู้ผลิตคือชนชั้นกลาง ได้แก่
                                                            ่
                   เกษตรกร  ช่างฝีมือ ช่างทอผ้า ช่างเหล็ก ช่างทอง ช่างไม้ ประติมากร ฯลฯ บาร์โบซ่าซึ่งเป็น
                   พ่อค้าและนักเดินทางชาวโปรตุเกสได้บรรยายว่ากลุ่มชนชั้นสูงจะมีชีวิตอยู่อย่างหรูหรา มีอาหาร
                   การกินที่อุดมสมบูรณ์ ใส่เครื่องแต่งกายที่ทำจากผ้าไหมและผ้าฝ้าย สวมใส่เครื่องประดับที่แสดง

                                                         ่
                   ถึงความมั่งคั่ง นอกจากนี้ เขายังได้อ้างถึงพอค้าตระกูลต่างๆที่ร่ำรวยมากในแถบชายฝั่งมะละ
                   บาร์ซึ่งทำการค้ากับประเทศต่างๆทางฝั่งตะวันออก

                           ส่วนชนชั้นกลาง เช่น ครู นักวิชาการ แพทย์ ข้าราชการชั้นผู้น้อย รวมไปถึงทหารใน
                   กองทัพก็มีความมั่งคั่ง ในขณะที่ช่างฝีมือ ช่างทอผ้า ช่างตัดผม ช่างซักล้างและช่างทำหนัง ซึ่งถือ
                   ว่าเป็นคนทำงานในระดับต่ำของสังคมยังมีรายได้พอใช้ แต่กลุ่มชนชั้นล่างสุดซึ่งมีมากในสังคม

                   คือ กรรมกร เกษตรกร (บางกลุ่ม) เจ้าของร้านขายของชำ และทาสกลับดำเนินชีวิตด้วยความ
                   ขัดสนเป็นอย่างยิ่ง คนจนและคนรวยมีความแตกต่างในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่อย่างชัดเจน

                   ในขณะที่รัฐก็ไม่ได้ทำให้ความทุกข์ยากของคนจนบรรเทาลงไปมากนัก ยกเว้นในภาวะฉุกเฉิน
                   เช่นในช่วงเวลาข้าวยากหมากแพง เป็นต้น






                          21  R.C. Majumdar. An Advanced History of India, p. 377.
   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182