Page 96 - 054
P. 96
75
2.2.7 การท าพินยกรรมใหแกทายาท
ั
่
้
ี่
ี่
ุ
ิ
การท าพินัยกรรมให้แก่ทายาทโดยธรรมตามทัศนะทชัดเจนทสดของมัซฮับชาฟอย์
ี
ี่
ุ
็
ื
ี
ถอว่าเปนพินัยกรรมทศาสนาอนญาตให้กระท าได้ แต่ไม่มผลบังคับกับพินัยกรรมนั้นนอกจาก
ทายาททั้งหมดจะให้ค ายินยอม และค ายินยอมของทายาททั้งหมดนั้นจะท าให้พินัยกรรมมผลบังคับ
ี
ุ
ุ
ั
(อรณ บญชม, ม.ป.ป.: 5/46) หากไม่ได้รบค ายินยอมจากทายาทคนอนๆ หลังจากเจ้าของมรดกได้
ื่
ี
เสยชวิตไปแล้วถอว่าพินัยกรรมนั้นเปนโมฆะ แต่หากทายาทคนอนๆยินยอมหลังจากเจ้าของมรดก
ี
ื
ื่
็
ี
ได้เสยชวิตไปแล้วพินัยกรรมนั้นจะมผลในการบังคับใช้ เพราะการห้ามมให้ท าพินัยกรรมให้แก่
ิ
ี
ี
ื่
ั
ิ
ั
ทายาทนั้นก็เพื่อรกษาสทธของทายาทด้วยกัน ในเมอได้รบความเหนชอบจากทายาทแล้ว
็
ิ
ิ
ิ
ก็หมายความว่า พวกเขายอมสละสทธในส่วนทถกท าพินัยกรรมแก่ทายาทด้วยกัน(อสมาแอ อาล,
ิ
ู
ี่
ี
ึ
ม.ป.ป. : 104) ดังนั้นจงไม่ขัดขัดแย้งกับหลักการทางศาสนาแต่ประการใด โดยอาศัยหลักฐานจาก
ุ
ฺ
ี
ี
ู
ี่
อัลหะดษทรายงานจากอัมร บตร คอรญะฮ ฺ ว่า ท่านเราะสล ได้กล่าวว่า
ِ ٍ ِ ِ
ِ
ِ
(( ةا ثروْ لا زييُ ناأ َّ لاإ ثراول ةَّ يصو لا))
ُ ْ
ُ
ا
اا ا
ا
ا
٨٧
( : ٦٧١١ ،نيطقرادلا هاور)
ี
ั
ความว่า “ไม่มการท าพินัยกรรมให้กับทายาท เว้นแต่ได้รบ
ุ
ื่
อนญาตจากทายาทบคคลอน”
ุ
(al-Dar Qutni, 1966: 89)
ุ
จากหลักฐานข้างต้นสรปได้ว่า การท าพินัยกรรมให้แก่ทายาททมสทธ์ ิรบมรดกนั้น
ิ
ี
ั
ี่
็
จะต้องได้รบความเหนชอบของทายาททั้งหมด ด้วยเหตน้ หากว่าทายาทคนอนๆยินยอม ดังนั้น
ั
ุ
ื่
ี
ื
ู
ื
็
ุ
พินัยกรรมนั้นถอว่าใช้ได้ เพราะการอนญาตของทายาทนั้นถอเปนความถกต้องโดยชอบธรรม
2.2.8 การเปลี่ยนแปลงพินยกรรม
ั
วาญบทการท าพินัยกรรมต้องเปนไปในส่งทดงามตามครรลองศาสนา เมอใดท ี่
็
ี
ี่
ิ
ิ
ื่
ี่
็
ิ
ี
ผู้ท าพินัยกรรมมเจตนาจะท าให้เกิดผลเสยหายแก่ทายาทถอว่ามันเปนส่งทหะรอมและเปนบาป และ
ี่
็
ื
ี
ื่
ี่
ั
ั
ี่
ิ
ื
ี่
ถอว่าหะรอมส าหรบผู้รบพินัยกรรมและคนอนๆทจะท าการเปลยนแปลงพินัยกรรมทยุตธรรม และ
็
สนัตส าหรบผู้ทรว่าในพินัยกรรมนั้นมความอธรรมหรอเปนบาปอยู่จะต้องให้การตักเตอนแก่ผู้ท า
ี่
ื
ี
ุ
ั
ู
้
ื
ั
ี
ิ
พินัยกรรมเพื่อให้เขาท าให้มันดข้น ยุตธรรมข้น และห้ามปรามเขาจากอธรรม แต่หากเขาไม่ตอบรบ
ึ
ึ