Page 23 - 047
P. 23
2
ิ
ี
ี
ั
ู
ี่
ึ
ทันการเปลยนแปลงของสังคมโลก รวมทั้งปลกฝงให้ผู้เรยนมจตสํานกของความเปนไทย มระเบยบ
ี
ี
็
ึ
ิ
์
ึ
วินัย คํานงถงประโยชนส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครองระบบประชาธปไตยอันม ี
ิ
พระมหากษัตรย์เปนประมข ” มาตรา 80 (4) ส่งเสรมและสนับสนนการกระจายอํานาจเพื่อให้
ิ
ุ
็
ุ
ี
องค์กรปกครองส่วนท้องถ่น ชมชน องค์การทางศาสนาและเอกชน จัดและมส่วนร่วมในการจัด
ุ
ิ
ึ
ึ
ี
การศกษาเพื่อพัฒนามาตรฐานคณภาพการศกษา ให้เท่าเทยมและสอดคล้องกับแนวนโยบายพื้นฐาน
ุ
ึ
ั
แห่งรฐ มาตรา 80 (5) ส่งเสรมและสนับสนนการศกษา วิจัยในศลปะวิทยาการแขนงต่างๆและ
ิ
ุ
ิ
ั
ึ
ี่
ุ
เผยแพร่ข้อมูลผลการศกษา วิจัยทได้รบทนสนับสนนการศกษา วิจัยจากรฐ มาตรา 80 (6) ส่งเสรม
ึ
ิ
ุ
ั
ู
ุ
ิ
ึ
ี
้
้
ู
ี
ู
ิ
และสนับสนนความรรกสามัคค และการเรยนร ปลกจตสํานกและเผยแพร่ศลปวัฒนธรรม
ั
ี
ขนบธรรมเนยม ประเพณของชาตตลอดจนค่านยมอันดงานและภมปญญาท้องถ่นและในมาตรา 6
ี
ู
ิ
ิ
ี
ิ
ั
ิ
ิ
ึ
ึ
ิ
แห่งพระราชบัญญัตการศกษาแห่งชาต พ.ศ. 2542 บัญญัตไว้ว่า การจัดการศกษาต้องเปนไปเพื่อ
็
ิ
ั
ี่
ิ
ี
ุ
ิ
พัฒนาคนไทยให้เปนมนษย์ทสมบูรณทั้งร่างกาย จตใจ สตปญญา ความร และคณธรรม มจรยธรรม
ิ
็
ุ
ู
์
้
ื่
ี
ุ
ี
และวัฒนธรรมในการดํารงชวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อนได้อย่างมความสข (สํานักงานการศกษา
ึ
แห่งชาต พ.ศ. 2542, 2542: 5)
ิ
ิ
ิ
ึ
ึ
จากพระราชบัญญัตการศกษาแห่งชาตดังกล่าวจงทําให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ
ั
ึ
ึ
ั
ทั้งภาครฐและเอกชนให้ความสําคัญและเร่งรดให้เกิดการขยายการศกษาเพิ่มข้นเพื่อพัฒนาคนไทย
ี
์
ให้เปนมนษย์ทสมบูรณสามารถดํารงชวิตอยู่ร่วมกับผู้อนในสังคมได้อย่างมสข ดังนั้นจังหวัด
ื่
ุ
ี่
ุ
ี
็
ี
ิ
ี
ั
ื
ชายแดนภาคใต้อันประกอบด้วย จังหวัดยะลา ปตตานและนราธวาส มประชากรส่วนใหญ่นับถอ
ื่
ื่
ี่
ิ
ี
ี
ี
ศาสนาอสลาม มอัตลักษณและวิถชวิตทแตกต่างจาก ส่วนอนของประเทศ โดยเฉพาะในเรอง
์
ี
ิ
ุ
ิ
ึ
ึ
การศกษา พบว่าผู้ปกครองนยมส่งบตรหลานเข้าศกษาในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม เพราะ
ี
ู
ี
ิ
ิ
ี
ต้องการให้ได้เรยนรทั้งวิชาสามัญและศาสนา โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม เดมมการ
้
ึ
ู
ึ
่
ดําเนนการจัดการศกษาในรปแบบปอเนาะ ซงเน้นการสอนวิชาการศาสนา ต่อมาปอเนาะได้เปลยน
ี่
ิ
สภาพเปนโรงเรยนราษฎ์สอนศาสนาอสลาม โดยมจดม่งหมาย เพื่อพัฒนาการศกษาให้มี
ึ
ี
ุ
็
ุ
ิ
ี
ิ
ี
ึ
ุ
ประสทธภาพยิ่งข้น ทําให้มการเพิ่มหลักสตรสามัญศกษา ภายใต้การควบคมของ คณะกรรมการ
ู
ิ
ึ
การศกษาเอกชน กระทรวงศกษาธการ หลังจากได้มการตราพระราชบัญญัตโรงเรยนเอกชน พ.ศ.
ี
ี
ิ
ึ
ิ
ึ
ิ
ี่
ึ
็
2525 โรงเรยนราษฎรสอนศาสนาอสลาม จงได้เปลยนสภาพเปนโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม
ิ
ี
ี
์
ุ
ิ
มาจนถงปจจบัน (ชมพูนช นยมแย้ม, 2547 ) แม้ว่าโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามจะได้รบการ
ี
ั
ุ
ิ
ึ
ั
ุ
อดหนนและช่วยเหลอจากรฐ แต่การดําเนนงานของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามยังคงม ี
ิ
ื
ิ
ี
ุ
ั
ี
์
ปัญหาโดยเฉพาะด้านการบรหารงานวิชาการ ผู้บรหารไม่มประสบการณในการบรหารงาน จากการ
ิ
ิ
ิ
ี
ึ
ิ
ุ
ศกษาวิจัยเรอง การพัฒนาคณภาพโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม (มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
ื่
ิ
ี
,2549 อ้างถงใน นเลาะ แวอเซง และคณะ, 2552 : 743) พบว่า คณภาพของนักเรยนในโรงเรยน
็
ุ
ุ
ึ
ี