Page 22 - 032
P. 22
2
ิ
ึ
ุ
ั
ื
ค าว่า จงอ่าน ถอเปนจดเรมต้นของการศกษาส าหรบมวลมนษย์ทั้งโลก และเปน
ุ
็
็
ี
ี
ื
ู
็
การสั่งใช้ให้กระท าถอเปนส่งส าคัญในการเรยนร้วิถชวิตการเปนมนษย์ให้สมบรณด้วยการผ่านการ
ี
ิ
็
ุ
์
ู
ี
ั
ึ
ศกษา ในห้าอายะหน้มความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการศกษา ซงได้ย ้าค าว่า “จงอ่าน” สองคร้งถอ
ี
ื
่
์
ึ
ึ
็
ุ
ึ
เปนการมาซงในรปค าสั่ง เพื่อให้มนษย์ได้ตระหนักและเปนการบ่งบอกถงความส าคัญของการ
่
ึ
็
ู
ู
ึ
่
ู
ี
ี่
ศึกษาแสวงหาความร้ ซงสอดคล้องกับหะดษทท่านนบมฮัมมัด ได้กล่าวว่า “การศึกษาแสวงหา
ﷺ
ี
ื
็
ั
ู
ิ
ิ
ุ
ู
็
ความร้นั้นเปนฟรด (ส่งจ าเปน) เหนอมสลมทุกคน” (Ibnu Majah,1975)
็
ั
ิ
การศึกษาในอสลามยังเปนกระบวนการอบรมและบ่มเพาะ สติปญญา ร่างกายและ
ี
ุ
ุ
์
ิ
ฺ
ึ
จิตวิญญาณเพื่อผลตมนษย์ที่สมบูรณ หลายคณลักษณะ ดังน้ อัต-ตัรบียะฮ หมายถงการอบรม การ
ขัดเกลาจิตใจ อัต-ตะอลม หมายถง การถ่ายทอดควาวมร้ ซงหมายถงความร้ทางศาสนาและทางโลก
ี
ึ
ึ
ึ
่
ู
ู
ฺ
ั
ี
อัต-ตะอดบ หมายถง การอบรมบ่มนสัย คณธรรมและมระเบยบวินัย (อบราเฮ็ม ณรงค์รกษาเขต,
ิ
ี
ฺ
ุ
ึ
ิ
ี
ื
2551) และในทัศนะอสลามมสลมทดจะเปนผู้ยึดมั่นกับหลักค าสอนของอัลอสลาม ซงถอเปน
็
ี่
ี
ึ
ิ
ุ
็
่
ิ
ิ
ี
ู
ี่
ี
็
ิ
ิ
ี่
ี
วิธการด าเนนชวิต และการด าเนนชวิตทถกต้องนั้นจะต้องเปนวิถทวางอยู่บนพื้นฐานของศาสนา
ี
่
ื
ึ
็
ซงการรจักศาสนาจะต้องผ่านกระบวนการศึกษา ซงถอเปนกุญแจส าคัญที่จะน ามาซงความก้าวหน้า
ึ
้
ู
ึ
่
่
ี่
ี
ู
ี่
ความผาสกทั้งในโลกน้และโลกหน้า ดังวัจนะของท่านนบมฮัมมัด ทว่า “ผู้ใดก็ตามทได้เลอก
ี
ื
ุ
ﷺ
ั
ึ
หนทางหนงเพื่อการศกษา(ความรอสลาม) ผู้นั้นจะได้รบการเปดทางหนงในบรรดาหนทางต่าง ๆ
ิ
่
่
ิ
ู
้
ึ
ึ
จากอัลลอฮไปส่สวรรค์” (Abu Daud, 2000) สังคมใดที่ประชาชนมองค์ประกอบไปด้วยการศกษาที่
ี
ึ
ู
ฺ
ี
็
ด สังคมนั้นย่อมมความก้าวหน้าพัฒนาไปได้อย่างรวดเรว โดยเฉพาะการจัดการศกษาในระดับมล
ี
ึ
ู
ื่
ุ
ฐานของชมชนย่อมเปนรากฐานที่ส าคัญยิ่งของประเทศชาติ เมอพิจารณาระดับมหภาค พบว่าการจัด
็
ิ
้
ิ
การศึกษาเปนหน้าที่ของรัฐที่จะจัดการศึกษาให้มประสทธภาพ เกิดประสทธผลบรรลเปาหมายของ
ิ
็
ี
ุ
ิ
ิ
ึ
ชาติ แต่รัฐมทรัพยากรจ ากัดไม่สามารถด าเนนการได้อย่างทั่วถง ท าให้การจัดการศึกษาอาจขาด
ี
คณภาพลง (กระทรวงศึกษาธการ, 2551)
ุ
ิ
็
แต่เนองจากการจัดการการศึกษาอสลามเปนการจัดการการศึกษาที่น าหลักการทาง
ื่
ิ
ี
ี
่
ศาสนามาจัดการเรยนการสอนเพื่อน าไปใช้เปนส่วนหนงในการด าเนนชวิต มการจัดการเรยนการ
็
ี
ี
ึ
ิ
ึ
ู
ี
ี
่
สอนทั้งที่บูรณาการการเรยนการสอนศาสนาควบค่กับวิชาสามัญและไม่มการบูรณาการ ซงแตกต่าง
ี
ิ
ุ
ิ
ั
จากการจัดการการศึกษาของรฐบาล ในอดตการจัดการการศึกษาอสลามให้กับยุวชนมสลมจะ
ุ
ุ
ิ
ี
เกิดขึ้นตามมัสยิดโดยแต่ละชมชนได้ก่อตั้งขึ้นในท้องถ่นตัวเอง ไม่ได้มการสนับสนนงบประมาณ
ั
ิ
จากหน่วยงานจากภาครัฐ อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธการ (2551) ระบุว่า แม้นว่าปจจุบันรฐบาล
ั
จะได้ให้การสนับสนนส่งเสรมการสอนอสลามศึกษาทั้งในโรงเรยนของรัฐและเอกชนมาโดยตลอด
ิ
ิ
ุ
ี
ุ
ุ
ึ
ู
ู
ทั้งในรปของเงนอดหนนและค่าจ้างครสอนศาสนา ปจจบันการจัดการการศกษาในพื้นทจังหวัด
ี่
ั
ุ
ิ
ึ
ึ
ชายแดนภาคใต้อยู่ในความรับผิดชอบของสถานศกษาหลายประเภทรวมกว่า 3000 แห่ง รวมไปถง