Page 75 - 026

75

ทบวงมหาวิทยาลัยได้น าเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งวิทยาลัยอิสลามศึกษาไปยัง
ส านักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2528 และส านักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ได้ส่งร่างพระราชกฤษฎีกา ให้คณะกรรมการปฏิรูประบบราชการและระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พิจารณาก่อน (ส านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, 2528 : 1) ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการฯ ได้

พิจารณาแล้วเห็นด้วยในหลักการที่จะให้มีการจัดตั้งวิทยาลัยอิสลามศึกษาขึ้นที่

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพื่อที่จะให้เป็นสื่อกลางการศึกษาศาสนาอิสลามทุก
ระดับชั้น จนถึงขั้นอุดมศึกษา รวมทั้งการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับศาสนาอิสลามและการบริการชุมชนใน

จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่มีข้อสังเกตว่า โครงการจัดตั้งวิทยาลัยอิสลามศึกษาจะมีผลกระทบต่อ
งบประมาณ โดยเฉพาะค่าก่อสร้างอาคารที่ท าการ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศแล้ว

จะมีค่าใช้จ่ายถึง 85.6 ล้านบาท กอปรกับในช่วงเวลาดังกล่าว รัฐบาลก าลังประสบปัญหาทางด้าน

การเงิน จึงเห็นควรด าเนินการเป็น 3 ระยะ คือ ในระยะแรกควรด าเนินการในรูปของภาควิชาอิสลาม
ศึกษา สังกัดคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ระยะที่ 2 หากมหาวิทยาลัยสงขลานคินทร์ ยัง

ต้องการที่จะยกฐานะให้สูงขึ้นเทียบเท่าคณะ ก็ให้ด าเนินการในรูปของโครงการเป็นการภายในไป

พลางก่อน และในระยะที่ 3 เมื่อเห็นว่ามีความเหมาะสมและมีความพร้อมทั้งในด้านอัตราก าลังและ
งบประมาณ จึงค่อยเสนอขอให้จัดตั้งเป็นการถาวรต่อไป (ส านักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบ

ราชการและระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน, 2528 : 1-2) ต่อมาทบวงมหาวิทยาลัยได้แจ้งความเห็น
ของคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการฯ ให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พิจารณาเสนอความเห็น

(ส านักงานปลัดทบวง, 2528 ข : 1) และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้พิจารณาแล้ว ขอยืนยันการ

จัดตั้งวิทยาลัยอิสลามศึกษา โดยได้ชี้แจงหลักการและเหตุผล ตลอดจนรายละเอียดเพิ่มเติมให้
ทบวงมหาวิทยาลัยรับทราบ โดยได้ชี้แจงเกี่ยวกับงบประมาณและขั้นตอนการด าเนินงานดังนี้

(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2529 : 113)
“มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขอยืนยันว่าในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

แห่งชาติ ฉบับที่ 6 (2530-2534) ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ มหาวิทยาลัยฯ จะ

ไม่ขอตั้งงบประมาณค่าก่อสร้างอาคาร แต่จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กล่าวคือ
อาคารเรียนรวมของวิทยาเขตปัตตานีจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ในปีงบประมาณ 2529 (เดือนมิถุนายน

2529) ท าให้อาคารเรียนเดิมของวิทยาเขตปัตตานีว่างลง ซึ่งสามารถใช้เป็นที่ท าการของวิทยาลัย

อิสลามศึกษาได้ และถ้าหากมีความจ าเป็นที่จะต้องขอตั้งงบประมาณค่าก่อสร้างในช่วงของแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2525-2529) มหาวิทยาลัยฯ จะของบประมาณค่า

ก่อสร้างเท่าที่จ าเป็น โดยจะไม่ให้เป็นภาระแก่รัฐบาลแต่ประการใด นอกจากนี้สถานภาพปัตตานีของ

โครงการจัดตั้งวิทยาลัยอิสลามศึกษา ได้ด าเนินการมาถึงระยะที่ 3 แล้ว ดังจะเห็นได้จากการผลิต
บัณฑิตระดับปริญญาตรี ปัจจุบันด าเนินการโดยแผนกวิชาอิสลามศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และ