Page 71 - 026
P. 71

71







                       อย่างไร (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, วิทยาลัยอิสลามศึกษา, 2531 : 7) ดังจะเห็นได้จากการที่คณะ
                       มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้มีนโยบายที่จะเปิดวิชาอิสลามศึกษา

                       เพื่อให้มีความเข้าใจด้านวัฒนธรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจ และภาวะทางสังคมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะความ
                       เข้าใจอันดีต่อกันด้านวัฒนธรรมของประชากรที่มีวัฒนธรรมต่างกันซึ่งอยู่ร่วมกันในภูมิภาคแห่งนี้

                       นโยบายดังกล่าวนี้ สอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า “ความแตกต่างของศาสนาและวัฒนธรรมหาใช่อุปสรรค

                       ของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่” และนโยบายดังกล่าวนี้ ได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาตามแผนพัฒนา
                       เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 4 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา

                       (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, ม.ป.ป. : 1)
                                                 การด าเนินงานจัดตั้งวิทยาลัยอิสลามศึกษา เพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาศาสนา

                       อิสลามที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้มีการด าเนินการดังนี้ (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์,

                       วิทยาลัยอิสลามศึกษา, 2531 : 13-18)
                                                 ในปี พ.ศ. 2515 ได้มีการจัดนิทรรศการทางวิชาการเรื่อง ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น

                       ภาคใต้ อันเป็นการปูพื้นฐานทางความคิดริเริ่มเพื่อการจัดตั้งวิทยาลัยอิสลามศึกษา เป็นครั้งแรก

                                                 ในปี พ.ศ. 2517 นายเตาฟิก อูวายดา  เลขาธิการสภาสูงอิสลามแห่งกรุงไคโร ได้
                       เดินทางมาเยือนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และได้รับทราบเกี่ยวกับกิจกรรมด้านอิสลามศึกษาของ

                       มหาวิทยาลัย ต่อมารัฐบาลสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ก็ได้มอบเงินจ านวน 10,000 ปอนด์สเตอร์ลิง
                       (ประมาณ 400,000 บาท) เพื่อริเริ่มการด าเนินการด้านอิสลามและอาหรับศึกษา (Islamic and

                       Arabic Studies Program) ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และได้เชิญผู้แทน

                       มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ านวน 3 คน คือ ดร.ช านาญ  ประทุมสินธุ์  นายหะสัน หมัดหมาน
                       และนายอนันต์ โอกฤษ  ไปดูงานด้านอิสลามศึกษาที่กรุงไคโร  ประเทศสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ เป็น

                       เวลา 10 วัน ระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2517
                                                 ปี พ.ศ. 2518  เช็ดอัซซัน  อัตโตฮามี  เลขาธิการสภามุสลิมโลก ซึ่งเคยเดินทางมา

                       เยือนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี แจ้งให้ทราบว่าราชอาณาจักรอบูดาบี ได้ตกลงที่

                       จะให้ความช่วยเหลือโครงการการศึกษาทางภาคใต้แก่ชาวไทยมุสลิมในวงเงินจ านวน 4 ล้านเหรียญ
                       สหรัฐ หรือ 80 ล้านบาท  ทั้งนี้ราชอาณาจักรอบูดาบีได้ขอร้องให้รัฐบาลไทยแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น

                       คณะหนึ่ง เพื่อท าหน้าที่พิจารณาก าหนดแผนโครงการศึกษาและโครงการก่อสร้างอาคาร โดยเสนอให้

                       องค์การการประชุมอิสลามได้ทราบก่อน แต่เนื่องจากการขาดเอกภาพของหน่วยงานรองรับและ
                       เหตุขัดข้องบางประการ ความช่วยเหลือดังกล่าวจึงมีอันต้องงดไป

                                                 ในปี พ.ศ. 2519 มหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งกรรมการร่างหลักสูตรวิชาการศึกษาอิสลาม

                       (Islamic Studies) ขึ้นชุดหนึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน และที่ปรึกษาอีก 3 คน  ทั้งจาก
                       ส่วนกลางและจากท้องถิ่น ตามค าสั่งที่ มอ. 337/2519  ซึ่งมี นายมะเนาะ  ยูเด็น เป็นประธาน และ
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76