Page 96 - 022
P. 96
96
ี
‘Arab wa al-Islam ( ) และในป ค.ศ. 1990 Muhammad Sa‘id
ึ
ี
ื่
ี
ี
ุ
่
Mubayyad ได้เขยนสารานกรมเศาะหาบยาตโดยเฉพาะ ซงเรยงตามล าดับตัวอักษร โดยใช้ชอว่า
Mawsu‘ah Hayat al-Sahabiyat ( ) ต าราทั้งสองเล่มน้ ีได้น าเสนอ
ี
ี
ี
ิ
รายละเอยดอัตชวประวัตและผลงานของบรรดาเศาะหาบยาตแต่ละท่าน บางท่านมรายละเอยด
ี
ี
ี่
ี
ค่อนข้างมากในขณะทบางท่านมเพียงรายชอและสายตระกูลเท่านั้น
ื่
ี
ในป ค.ศ. 1990 Abd al-Halim Abu Shuqqah ได้แต่งต าราเกี่ยวกับสตรมสลมเล่มหนงชอว่า
ึ
ุ
ื่
ิ
ี
่
็
ี
ึ
Tahrir al-Mar’ah Fi ‘Asr al-Risalah ( ) ต าราเล่มน้เปนการศกษาทาง
ิ
ิ
ี่
่
ึ
ื
่
ั
ึ
สังคมในเชงฟกฮ์ทเกี่ยวกับสตรในยุคสมัยของท่านนบ ทส าคัญเล่มหนงในปจจบัน ซงมเน้อหา
ุ
ี
ี
ี่
ี
ุ
ิ
ิ
ี
ยาวถงหกเล่ม ผู้เขยนได้รวบรวมตัวบทอัลกุรอานและตัวบทอัลหะดษทเกี่ยวกับสตรในทกมตและ
ี่
ี
ี
ึ
ี
ี
้
ี่
ี
ิ
ทกด้านของการด าเนนชวิต โดยคัดตัวบทหะดษทเกี่ยวข้องจากต าราอัลหะดษทั้งหมด 14 เล่ม พรอม
ุ
ี
็
ี่
ิ
ิ
กับน าทัศนะของนักฟกฮ์ในการอธบายตัวบทในเชงฟกฮ์ในบางกรณทจ าเปน ต าราเล่มน้ได้รบการ
ั
ิ
ิ
ี
ิ
็
ึ
ื่
่
ี่
แปลเปนภาษาอนโดนเซย โดยใช้ชอว่า “Kebebasan Wanita” ซงนับว่าเปนต าราทรวบรวมตัวบทท ี่
ี
ี
็
ี
ึ
ุ
ี่
ี่
เกี่ยวกับสตรทใหญ่ทสดเล่มหนง
่
Bassam Muhammad Hamami (Hamami, 1993), Muhammad ‘Ali Qutub (Qutub, 1995)
ี
และ Ahmad Al-Jad‘ (Al-Jad‘, 1997) ทั้งสามท่านได้แต่งหนังสอเกี่ยวกับวีระสตรมสลมทใกล้ชด
ิ
ื
ิ
ี่
ุ
ี
ื
ื
ื่
กับท่านนบ โดยใช้ชอหนังสอเหมอนกันว่า Nisa’ Hawl al-Rasul ( ) หนังสอ
ื
Tarajim Sayyidat Bayt al-Nubuwwah (ة ) ของ ‘A’ishah Abd Al-Rahman
ื
(Al-Rahman, n.d.), หนังสอ Dawr al-Mar’ah al-Risaliyah Fi Dawlat al-Nubuwwah (
ื
) ของ Sa‘id Hashim (Hashim, 1996) และหนังสอ Huquq al-Zawjayn wa
ี
Sahabiyat al-Rasul ( ) ของ ‘Abdullah Shahatah (n.d.) งานเขยน
ี
ี
ิ
ี่
ี
ี่
ิ
ทั้งหมดน้มลักษณะคลายกันทเน้นชวประวัตและผลงานของบรรดาวีระสตรทใกล้ชดกับท่านนบ
ี
ี
ี่
่
็
ิ
ี
ึ
โดยเร่มตั้งบรรดาผู้ทเปนแม่ของท่านนบ ซงประกอบด้วยแม่ผู้ให้ก าเนด แม่นม และแม่ผู้ให้การ
ิ
ี
ี
้
ู
ค้มครองและอบรมดแลท่านนบ บรรดาภรรยา บตรสาวและน้าสาวของท่านนบ พรอม
ุ
ุ
ี
ื่
ี่
์
กับเศาะหาบยาตทมชอเสยงบางท่าน งานเขยนเหล่าน้ยังขาดการวิเคราะหและสังเคราะหถงบทบาท
ี
ึ
ี
ี
์
ี
็
ิ
ในด้านต่างๆ ของบรรดาเศาะหาบยาตทสามารถน ามาเปนแนวในการพัฒนาบทบาทสตรมสลมใน
ี่
ุ
ี
ี
ปจจบันได้
ุ
ั
Abbas Mahmud al-‘Aqqad (1969) และ Muhammad Mutawalla al-Shi‘rawi (n.d.) ทั้งสอง
ี
ท่านได้เขยนหนังสอโดยใช้ชอเหมอนกันว่า Al-Mar’ah Fi al-Qur’an ( ) นอกจากน้ ี
ื
ื
ื่
ต ารา Al-Mar’ah Bayn al-Qur’an wa Waqi‘ al-Muslimin ( ) ของ