Page 98 - 022
P. 98
98
ี
ิ
ิ
์
ี่
้
ต าราตะรอญม ต าราสเราะฮ์และต าราประวัตศาสตรอสลามเท่าทผู้วิจัยสามารถรวบรวมมาได้ พรอม
ุ
กับแบ่งเน้อหาวิจัยออกเปนสส่วนใหญ่ๆ ดังน้คอ
ื
ี่
็
ื
ี
ี
ุ
1) สัมพันธภาพระหว่างนบมหัมมัด กับบรรดาสตร
ี
ี
ึ
2) สตรกับการศกษา
3) สตรในชวิตครอบครว
ี
ี
ั
ี
4) สตรในชวิตสาธารณะ
ี
ิ
ี
ี
ิ
ี
ั
ผลการวิจัยพบว่า โดยทั่วไปสตรอาหรบในยุคก่อนอสลาม(ยุคญาฮลยะฮ์) มสถานภาพท ี่
่
ี
ื
็
ี่
ิ
ั
็
ี
ค่อนข้างตกต ามาก ในสังคมอาหรบก่อนอสลามได้แบ่งสตรออกเปนสองชนชั้น คอสตรทเปนไท
ี
ี
ิ
ื
ี
ั
็
ี่
และสตรทเปนทาส ส าหรบสตรทเปนทาสนั้นมสถานภาพเหมอนกับส่งของทสามารถซ้อขายกันได้
ื
ี่
็
ี่
ี
ั
ุ
ี
ึ
สถานภาพดังกล่าวน้ได้รบการแก้ไขและยกระดับให้ดข้นในสมัยของท่านนบมหัมมัด ทั้งอัลกุร
ี
ิ
ุ
ึ
อานและหะดษได้ยืนยันถงความเสมอภาพและความเท่าเทยมกันระหว่างสตรกับบรษ อสลามได้
ี
ี
ุ
ี
ี
ี
ั
มอบสทธบางอย่างทพวกนางไม่เคยได้รบมาก่อน ท่านนบ ให้ความส าคัญต่อสตรและไม่เคย
ิ
ิ
ี่
ิ
ี
ิ
ิ
ี
ื
ปฏบัตต่อสตรเสมอนชนชั้นทสองของอสลาม บ่อยคร้ ังทท่านนบ รบฟงและปฏบัตตามความ
ั
ิ
ี่
ี่
ิ
ั
ิ
ี
คดเหนของภรรยาของท่าน นอกจากน้ในยุคสมัยของท่านนบ พบว่ามสตรมสลมเข้าไปมส่วน
ี
ุ
ี
ิ
็
ี
ี
ร่วมในกิจกรรมทางสังคมในด้านต่างๆ ไม่ว่าในเรองการประกอบสัมมาชพ การค้าขาย การเมอง
ื
ื่
ี
ี
ุ
ุ
และการสงครามเหมอนกับบรษเพศ ในด้านศาสนากิจในบางโอกาสมสตรมสลมมาร่วมละหมาด
ุ
ี
ิ
ื
ี
ุ
ุ
ี
ุ
ี
์
ี
ี
ุ
้
วันศกร (ละหมาดญมอัต) และละหมาดวันอดกับท่านนบ พรอมๆ กับบรษเพศ อกทั้งมสตรเข้า
ี
ั
ไปฟงการเทศนาธรรมและการอบรมสั่งสอนของท่านนบ ในมัสยิด จนกระทั่งพวกนางบางท่าน
ู
ุ
ุ
ี
้
ิ
ุ
้
ี่
ู
็
กลายเปนอละมาอ์ (ปราชญ์ผู้ร) ทมบทบาทส าคัญในการเผยแผ่ความรอสลามให้แก่บรษและสตรใน
ี
เวลาต่อมา (Savaş, 1991)
์
ิ
์
ี่
แม้ว่างานวิจัยเล่มน้ ีได้ค้นพบปรากฏการณทางประวัตศาสตรทส าคัญหลายประการท ี่
เกี่ยวกับเศาะหาบยาตในยุคสมัยของท่านนบ แต่อย่างไรก็ตามงานวิจัยช้นน้ยังมข้อจ ากัดบาง
ี
ิ
ี
ี
ี
ี่
ี
ี่
ประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้วิจัยไม่สามารถทจะรวบรวมรายงานทเกี่ยวกับเศาะหาบยาตในสมัย
ี
ี่
ี
ของท่านนบ ได้ทั้งหมด เพราะมจ านวนมากและกระจัดกระจ่ายอยู่ในแหล่งข้อมูลทหลากหลาย
์
ี
ื
ึ
ื่
็
มาก อกทั้งผู้วิจัยไม่ได้วิเคราะหความน่าเชอถอของสายรายงาน และเปนเพียงการวิจัยถง
็
์
ิ
่
ึ
ปรากฏการณทางประวัตศาสตรเท่านั้น ซงยังไม่ได้สังเคราะหเน้อหาเพื่อน ามาประยุกต์ใช้เปน
์
์
ื
ุ
ั
ี
ุ
ิ
แนวทางในการพัฒนาบทบาทของสตรมสลมในสังคมปจจบัน
ุ
ี
์
ิ
ในป ค.ศ. 1993 ‘Asmah Ahmad Fahmi Abu Sunnah ได้ท าวิจัยเพื่อวิทยานพนธระดับดษฎ ี
ิ
ุ
บัณฑต มหาวิทยาลัยอมมลกุรอ ประเทศซาอดอาระเบย เรอง “Dawr al-Sahabiyat Fi al-Mujtami‘
ุ
ื่
ี
ิ
ุ
al-Islami min Khilal Kitab al-Tabaqat al-Kubra Li-ibn Sa‘d” (