Page 493 - 022
P. 493
493
ู
่
่
ึ
ึ
ั
์
Jurists) ร่วมกับมหาวิทยาลัยคเวตและสมาพันธนักกฎหมายอาหรบ ซงส่วนหนงของผลการสัมมนา
ิ
ิ
ิ
ี
้
ี
ุ
ิ
็
ี
มมตเรยกรองให้ประเทศมสลมทั้งหลายร่วมกันพิทักษ์สทธและสถานภาพสตรในประเดนต่างๆ
ต่อไปน้ ี
ิ
ื
ี
ี
ุ
ุ
ิ
ั
1. เรยกรองให้ประเทศมสลมทกประเทศจัดให้มกฎหมายรองรบสทธทางการเมองของ
้
ิ
ึ
่
ี่
ั
ี
ิ
ิ
ิ
สตรตามทอสลามได้รบรองไว้ ซงประกอบด้วยสทธในการออกเสยงเลอกตั้ง สทธใน
ิ
ิ
ื
ี
ิ
ั
ื
ี่
็
ิ
การเสนอตัวเพื่อลงเลอกตั้ง สทธในการได้รบการแต่งตั้งในต าแหน่งทเปนสาธารณะ
ิ
็
ิ
ี
สทธในการมส่วนร่วมในการก าหนดนโยบาย เปนต้น
ิ
ุ
ุ
ั
ุ
2. ให้ประเทศมสลมทกประเทศปรบปรงกฎหมายและอบรมบรรดาผู้พิพากษาเพื่อให้
ิ
ิ
ิ
ี่
ี
ั
สามารถพิทักษ์สทธสตรตามทอสลามรบรองไว้
ั
ึ
ี่
ุ
3. ควรจัดตั้งคณะกรรมการชดต่างๆ เพื่อศกษาปจจัยต่างๆ ทเกี่ยวกับสถานภาพของสตร ี
ี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณทเกี่ยวกับการศกษา การประกอบอาชพ และสถานภาพ
ึ
ี่
์
ส่วนบคคลของพวกนาง ทั้งน้เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสทธสตรได้รบการเคารพอย่าง
ิ
ุ
ิ
ี
ี
ั
จรงจังภายใต้หลักการกฎหมายอสลาม
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
4. สทธสตรจะต้องได้รบการพิทักษ์ในระดับเดยวกันกับสทธมนษยชน จงเรยกรองรฐบาล
ี
ั
ุ
ึ
ั
้
ี
ิ
ิ
ั
ิ
ั
ุ
อสลามและรฐบาลอาหรบทั้งหลายร่วมกันลงสัตยาบันในอนสัญญาระหว่างประเทศว่า
ี
ี่
ด้วยสทธมนษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนทไม่ขัดกับทัศนะของอสลามทมต่อสตร ี
ิ
ี่
ุ
ิ
ิ
การลงสัตยาบันดังกล่าวน้นอกจากเพื่อส่งเสรมการให้การเคารพในระดับนานาชาตต่อ
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
็
็
สทธดังกล่าวแล้ว ยังเปนการยืนยันถงความเปนแนวหน้าของอสลามในบทบาทการ
ึ
ิ
ิ
ส่งเสรมสทธมนษยชนอกด้วย (Bin Haji Othman, 1993: 120-121)
ี
ิ
ิ
ุ
ุ
่
ึ
ิ
ข้อสรปจากการสัมมนาดังกล่าวข้างต้นเปนส่วนหนงของความพยายามของโลกมสลมใน
็
ุ
ั
ั
ู
ิ
ิ
้
การเปดการรบรใหม่เกี่ยวกับบทบาทสตรในอสลามโดยผ่านกระบวนการทางกฎหมาย การรบร ู ้
ี
ู
ิ
ิ
ี
ใหม่เกี่ยวกับบทบาทผู้หญงในอสลามจะส าเรจได้จ าเปนจะต้องให้เกิดการเรยนรในกระบวนการ
็
้
็
ิ
ู
ื่
ปฏรป 3 เรองทส าคัญคอ การปฏรปด้านสังคม-การเมอง (Socio-political Reform) การปฏรปด้าน
ู
ี่
ื
ื
ิ
ิ
ู
การศกษา (Educational Reform) และความต้องการของประชาชาติอสลามกับการพัฒนากรอบ
ึ
ิ
ิ
แนวคดเกี่ยวกับอสลาม (The needs of the Ummah and the Islamic Perspective Development)
ิ
(ยูโซะ ตาเละ, 2555: 364)
ส าหรบการศกษาศาสนาในสังคมมสลมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รบอทธพล
ุ
ั
ิ
ิ
ิ
ั
ึ
ื่
โดยตรงจากปอเนาะหรอโต๊ะคร (Narongraksakhet, 2005: 106) ซงเน้นหนักในเรองบทบัญญัตและ
ิ
่
ึ
ื
ู
พิธกรรมศาสนา (อบาดะฮ์) โดยละเลยในเรองของสังคมและสตร อกทั้งเปนการศกษาทอยู่ภายใต้
ึ
ื่
็
ี
ิ
ี่
ี
ี
กรอบอทธพลของผู้ชายเปนใหญ่ทจ ากัดบทบาทของสตรมสลมเฉพาะในเรองครอบครวเท่านั้น
ั
ื่
ิ
ิ
็
ิ
ี่
ี
ุ