Page 332 - 022
P. 332
332
2) เศาะหาบียาตกับการรายงานสุนนะฮ ์
ึ
ั
ี
่
สนนะฮ์ของท่านนบ หมายถงการพูด การกระท าและการยอมรบของท่านนบ ซงได้
ี
ุ
ึ
ั
ิ
ิ
ู
ื
ี
ิ
ี
ี
รบการรายงานสบทอดกันมาจากบรรดาเศาะหาบะฮ์ ส่ตาบอน และตาบอตตาบอน ตลอดจนชนร่น
ุ
ึ
ี
ุ
็
ั
หลังต่อมาอย่างต่อเนองจนถงปจจบัน สนนะฮ์ของท่านนบ มความส าคัญเปนอย่างยิ่งในศาสนา
ุ
ื่
ี
อสลามรองลงมาจากอัลกุรอาน ดังทท่านนบ ได้มวจนะไว้ความว่า
ิ
ี่
ี
ี
้
้
่
้
่
้
้
ี
ิ
้
“ขาพเจาไดท้งไวใหแกพวกเจาสองประการ พวกเจาจะไมมวันหลงทางตราบใดท ี่
้
ึ
้
้
์
ี
พวกเจาไดยดมั่นในสองประการน้ นั่นคอ คมภรของอลลอฮ และสนนะฮของนบ ี
์
ุ
ฺ
ั
ั
ื
ี
1
ของพระองค” (Malik Ibn Anas, 2003: 4/281)
์
ุ
ุ
ี
ี่
ี
ท่านนบ ได้ยกย่องและกระต้นให้มการท่องจ าและเผยแผ่สนนะฮ์ของท่านนบ ดังทม ี
ี
ี
์
ิ
้
ฺ
ุ
ิ
ิ
ั
รายงานจากซัยด์ อบน ษาบต ได้ยินท่านนบ กล่าวไว้ความว่า “ขอใหพระองคอลลอฮทรงเบก
ี่
่
้
่
ึ่
้
้
่
้
้
้
้
ั
บานใบหนาผูทไดยนหะดษบทหนงจากฉน แลวไดทองจ าพรอมกับไดเผยแผใหแกผูอน...” (Al-
ื่
ี
้
้
ิ
ี
ุ
ุ
ิ
ิ
2
Tirmidhi: 2656) สนนะฮ์ของท่านนบ ครอบคลมทกมตของความจ าเปนในชวิตมนษย์ทั้งท ี่
ุ
ุ
็
ี
ุ
ี
็
ิ
เกี่ยวกับโลกน้และโลกหน้า สนนะฮ์ของท่านนบ บางอย่างเปนการอธบายโองการอัลกุรอานใน
ี
ื
ี่
ุ
ี่
ขณะทบางอย่างเปนการสั่งสอนหรอแบบอย่างทมสลมทกคนจะต้องถอปฏบัต ดังทพระองค์อัลลอฮ ฺ
็
ุ
ิ
ิ
ิ
ี่
ื
ได้ตรสไว้ว่า
ั
ั
ี่
้
ั
้
้
ี่
่
ความว่า “และอนใดทรสลไดน ามายังพวกเจาก็จงยดไว และอนใดททานไดหาม
้
ู
ึ
้
็
้
ฺ
้
ิ
้
ั
้
ั
ี
ิ
พวกเจาก็จงละเวนเสย พวกเจาจงย าเกรงอลลอฮเถด แทจรงอลลอฮเปนผูทรง
ฺ
้
เขมงวดในการลงโทษ” (Al-Hashr 59: 7)
้
ี
ี
ี
ี่
นักหะดษมทัศนะทแตกต่างกันในจ านวนเศาะหาบะฮ์และเศาะหาบยาตผู้รายงานหะดษ อัล
ี
ี
ี่
หากิมกล่าวว่า ผู้รายงานหะดษในระดับเศาะหาบะฮ์มจ านวนถง 4 พันคน ในขณะทอัลซะฮะบย์
ึ
ี
ี
กล่าวว่า มจ านวนประมาณ 1500 คน หรอไม่เกิน 2 พันคน (Al-Sakhawi, 1992: 4/110) อักรอม อัลอ ุ
ื
ี
ิ
ั
ี
ี่
ี
่
มะรย์ ซงเปนนักวิชาการปจจบันได้นับจ านวนนักรายงานหะดษในระดับเศาะหาบะฮ์ตามทอบน ุ
ึ
ุ
็
ี
ึ
อัลเญาซย์ได้รวบรวมไว้เท่ากับ 1858 คน ซงในจ านวนน้เปนเศาะหาบะฮ์จ านวน 1642 คนและเศาะ
่
ี
็
ี
หาบยาตจ านวน 216 คน ตัวเลขทรวบรวมโดยอัลเญาซย์น้มความใกล้เคยงกับตัวเลขของอัลซะฮะ
ี่
ี
ี
ี
ี
ี
บย์ (Hamid, 1428: 241)
1 อบ อุสามะฮ์วินจฉัยว่าเปนหะดษศอฮห ลฆ็อยรฮ์ ( ) (Malik Ibn Anas, 2003: 4/280)
ี
ู
ิ
์
็
ี
ิ
ิ
2 อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษศอฮห (Al-Tirmidhi, n.d.: 598)
็
์
ี
ี
ิ
ี