Page 261 - 022
P. 261
261
ี่
ี
ึ
ิ
ิ
ี
็
แล้วก็ตาม ทั้งน้เพราะว่าปจจัยยังชพของภรรยาเปนสทธโดยตรงของนางทเกิดข้นจากผลของการ
ั
ี
อะกัดแต่งงานตามชะรอะฮ์ (Al-‘Aid, 2006: 641) บทบัญญัตว่าปจจัยยังชพของภรรยาปรากฏทั้ง
ิ
ี
ั
ุ
็
ในอัลกุรอาน สนนะฮ์ของท่านนบ และความเหนพ้องต้องกันของบรรดาอละมาอ์ (Ibn
ี
ุ
Qudamah, 1997: 11/347)
อัลกุรอานได้กล่าวถงการให้ปจจัยยังชพแก่ภรรยาไว้ว่า
ึ
ั
ี
่
่
ี
้
้
ี
ความว่า “ ควรใหผูมฐานะรารวยจายตามฐานะของเขา สวนผูทการยังชพของเขา
่
้
ี่
็
ฺ
่
่
เปนทคบแคนแกเขาก็ใหเขาจายตามทอลลอฮทรงประทานมาใหแกเขา” (Al-Talaq
้
้
ั
ี่
ี่
่
้
ั
65: 7)
ี
ท่านนบ ได้กล่าวถงเรองไว้ความว่า
ึ
ื่
่
่
ั
้
่
ื่
่
่
“…ส าหรบพวกทานจะตองจดหาอาหารและเครองนุงหมแกพวกนางอยาง
ั
เหมาะสม…” (Muslim: 1218)
ุ
ื่
ิ
จากหะดษข้างต้นอมามนะวะวีย์กล่าวว่า วะญบจะต้องให้ปจจัยยังชพและเครองน่งห่มแก่
ี
ี
ั
ิ
ึ
ุ
ภรรยา ซงยืนยันด้วยความเหนพ้องต้องการของบรรดาอละมาอ์ (Al-Nawawi, 1994: 8/253)
่
็
้
ิ
ี
ิ
ุ
ี
นอกจากน้มหะดษจากท่านหญงอาอชะฮ์เล่าว่า นางฮนด์ บนต์ อตบะฮ์ เข้ามาฟองต่อท่าน
ิ
ี
ิ
ิ
นบ โดยกล่าวว่า “โอทานรสลุลลอฮ แทจรงอบู สฟยานเปนคนตระหน เขาไมใหปจจยยังชพ
้
่
ี
ฺ
ี่
่
้
้
ั
ั
ู
ี
ุ
็
่
ึ
อยางเพยงพอ แกดฉนและลูกๆของดฉน ดวยเหตุน้ ดฉนจงแอบหยบเอาเองโดยทเขาไมร” ท่านนบ ี
่
ั
ิ
ี
ิ
ี
่
ี่
ั
ู
้
ิ
ิ
ั
้
ึ
ี่
่
ี
ิ
่
กล่าวว่า “เธอจงหยบเอาเทาทพอเพยงแกเธอและลูกๆ ของเธอโดยธรรม” (Bukhari: 5364) จาก
็
ี
ิ
ี
็
ี่
ั
หะดษบทน้อบน หะญัรกล่าวว่าเปนหลักฐานแสดงให้เหนว่าวาญบทจะต้องให้ปจจัยยังชพอย่าง
ิ
ี
ุ
พอเพียงแก่ภรรยา (Ibn Hajar, 2005a: 11/268)
ุ
ี
ิ
ึ
่
ี
ี
ิ
ุ
มรายงานจากหะกีม อบน มอาวียะฮ์ จากบดาของเขาเล่าว่า มชายคนหนงถามท่านนบ ว่า
้
ื่
“อะไรคอสทธของภรรยาทมตอสาม ?” ท่านนบ ตอบว่า “ใหอาหารแกนางเมอเจาได ้
้
่
ิ
ิ
ื
ี
ี
ี่
ี
่
รบประทานอาหาร ใหเสอผาแกนาง เมอเจาไดใสเสอผา อยาไดตบตใบหนาของนาง และอยาไดดู
ื
้
ื่
้
้
้
่
้
่
่
้
ื
่
้
้
้
ั
้
ี
่
่
้
่
้
่
ถูกดูแคลนนาง อยาขับไลนางออกจากบานเวนแตเปลยนทนอนภายในบานเทานั้น” (Ibn Majah:
้
ี่
ี่
1
1850)
ี่
ี
สามวาญบทจะต้องให้ปจจัยยังชพแก่ภรรยาต่อเมอมเงอนไข 3 ประการดังน้ 1) มีการสมรส
ั
ื่
ี
ิ
ื่
ี
ี
ทถกต้องตามชะรอะฮ์ 2) ภรรยาได้มอบตัวให้แก่สาม และ 3) ภรรยาได้ภักดต่อสาม (Zaydan,
ี
ี
ี่
ี
ี
ู
ิ
ี่
1993: 8/156) และนักวิชาการมทัศนะทหลากหลายเกี่ยวกับชนดและปรมาณปจจัยยังชพทวาญบ
ี
ิ
ั
ิ
ี
ี่
1 อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษศอฮห (Al-Albani, 1997b: 2/120)
์
็
ี
ิ
ี
ี