Page 22 - 022
P. 22
1
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ควำมเปนมำและควำมสำคัญของปญหำ
ั
็
์
้
หลังจากเหตการณ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 พรอมกับการประกาศสงครามของมหาอ านาจ
ุ
ุ
ิ
ิ
ั
ี
ิ
ี่
ุ
็
ั
่
ึ
สหรฐอเมรกาทมต่อกล่มอัลกออดะฮ์ภายใต้การน าของอสามะฮ์ บนลาเดน ซงสหรฐอเมรกาถอว่า
ื
ิ
้
ุ
ิ
เปนองค์กรก่อการรายสากลนั้น สายตาประชมคมโลกต่างก็จ้องมองมายังมสลมอย่างน่าพิศวง
็
็
ุ
ิ
้
ศาสนาอสลามกลายเปนเปาในวงสนทนาในทกวงการ ตั้งแต่สภากาแฟในหมู่บ้าน วงการวิชาการ
ื
วงการการเมอง ตลอดจนวงการความมั่นคงทั้งในระดับท้องถ่น ระดับชาตและนานาชาต ศาสนา
ิ
ิ
ิ
ุ
็
ื
อสลามดเหมอนจะเปนจ าเลยของประชาคมโลกในปจจบันอย่างเหนได้ชัด บรรดาสอมวลชน
ั
ิ
ื่
็
ู
ื่
ตะวันตกและนักวิชาการตะวันตกบางท่านพยายามประโคมข่าวและน าเสนอเรองราวเกี่ยวกับ
ี่
ิ
ิ
ื่
ศาสนาอสลามในบางประเด็นทคลาดเคลอนจากข้อเท็จจรงจนท าให้ชาวตะวันตกและประชาคม
ู
ี่
ึ
็
ิ
โลกโดยรวมเข้าใจศาสนาอสลามในบางประเดนทไม่ถกต้อง ซงสอดคล้องกับบทความของ
่
ี
ื่
ี่
Kalidah Tanvir Syed ทเขยนไว้ในเรอง “Misconception About Human Rights and Women’s
Rights in Islam” ว่าหลังจากเหตการณ 11 กันยายน 2001 โลกหันมาให้ความสนใจต่อหลักค าสอน
ุ
์
ื่
ี่
ของศาสนาอสลามมากข้น จากการโฆษณาชวนเชอของค่ายสอมวลชนตะวันตกทปายสว่ามสลม
ี
ิ
้
ื่
ิ
ึ
ุ
เปนผู้ก่อการรายท าให้ชาวตะวันตกเข้าใจคลาดเคลอนต่อศาสนาอสลามในหลายประเด็น โดยเฉพาะ
ิ
็
้
ื่
ื่
ุ
็
ิ
้
อย่างยิ่งในสามประเดนใหญ่ๆ คอ 1) ความเข้าใจผิดว่ามสลมเปนผู้ก่อการราย อันเนองจากเชอใน
ื่
ื
็
ิ
เรองหลักการญฮาด 2) ศาสนาอสลามปฏเสธศาสตรทางวิทยาศาสตรและส่งเสรมให้มการศกษาใน
ื่
ิ
ึ
ิ
ี
ิ
์
์
ด้านศาสนาเท่านั้น และ 3) ศาสนาอสลามกดขสตรเพศ (Syed, 2008: 246-247)
ี
ี่
ิ
ึ
ี
ี่
ื่
ความเข้าใจทคลาดเคลอนเหล่าน้ยิ่งมน ้าหนักมากข้นเมอกองก าลังสหประชาชาตภายใต้การ
ิ
ื่
ี
ิ
ิ
ิ
ุ
ั
ั
็
ี
น าของสหรฐอเมรกาสามารถโค่นอ านาจรฐบาลมสลมฏอลบานในอัฟกานสถานได้ส าเรจในป ค.ศ.
ิ
2001 ซงบรรดานักข่าวได้เข้าไปขุดค้ยและตแผ่การละเมดสทธสตรอย่างรนแรงของรฐบาลฏอลบาน
ุ
ั
ี
ิ
่
ุ
ิ
ึ
ิ
ิ
ี
ั
ทอ้างว่าเปนรฐอสลาม ชะตากรรมผู้หญงชาวอัฟกันในช่วงการปกครองของรฐบาลฏอลบานได้รบ
ิ
ิ
็
ิ
ั
ั
ี่
ึ
ู
ู
็
ี
ี
การบันทกเปนเอกสารและถกเผยแผ่ออกไปส่ทั่วโลก มการรายงานว่าสตรชาวอัฟกันถกกีดกัน
ู
้
ุ
ี
ู
ไม่ให้เรยนหนังสอและไม่อนญาตให้ท างานนอกบ้าน พวกนางถกลงโทษอย่างโหดรายทารณเมอ
ุ
ื่
ื
ิ
ี
ละเมดกฎระเบยบทรฐบาลฏอลบานก าหนดไว้ แมร แอน แฟรงก์ (Mary Anne Franks) ได้อธบาย
ั
ิ
ิ
ี่
ี่
ี
ี่
กฎระเบยบทเข้มงวดบางอย่างทรฐบาลฏอลบานได้ประกาศใช้อย่างเปนทางการกับสตรชาวอัฟกัน
็
ั
ี่
ิ
ี
ดังน้ ี