Page 183 - 022
P. 183
183
ั
ุ
ู
ิ
ี
ี
1
์
ิ
ส าหรบนางซนนเราะฮ์ถกท ารายจนตาบอด แต่นางมความมั่นคงในอดมการณอสลามอย่าง
้
ื่
ี่
ี
เหนยวแน่นและนางพรอมทจะเผยแผ่หลักอากีดะฮ์อสลามทกเมอเมอมโอกาสแม้กระทั่งในขณะท ี่
ี่
ุ
ิ
ื่
้
ื่
ุ
็
้
้
ู
ั
ี่
็
อยู่ในสภาพทถกท ารายก็ตาม คร้ ังเมอพวกกุรอยช์กล่าวแก่นางว่า “พระเจาอลลาต และอซซาเปน
้
้
ั
่
ิ
ผูท าใหดวงตาของเธอบอด” นางโต้กลับด้วยการแทรกอากีดะฮ์อสลามว่า “ฉนขอสาบานตอพระเจา
้
วา พวกคณทงหลายเปนผูโกหก เจว็ดอลลาตและอซซานั้นไมสามารถใหคณและใหโทษใดๆ
ุ
ุ
ุ
้
่
็
้
่
ั้
ั
้
ทงสน” ต่อมาพระเจ้าทรงให้ดวงตาของนางสามารถมองเหนได้ตามปกต (Ibn Hisham, 1990:
ิ
็
ิ
ั้
้
ี
ี
ี
ื่
ฺ
ิ
1/345) อัลบะลาซรย์ได้รายงานในเรองเดยวกันน้ว่า อบู ญะฮล์ได้กล่าวแก่นางซนนเราะฮ์ว่า “เธอ
ุ
ี
ิ
้
ฺ
็
้
็
เหนไหม นเปนเพราะพระเจาอลลาต และอซซาทรงพโรธเธอแลว” นางโต้กลับอบู ญะฮล์โดย
ุ
ี่
ั
ุ
่
ื่
ิ
เปดเผยถงความไรเหตผลในหลักความเชอของชาวมชรกมักกะฮ์ว่า “ตัวมันเองก็ตาบอดเชนกัน
้
ิ
ึ
ุ
้
่
เจว็ดอลลาตและอซซามันไมรหรอกวาใครบางทบูชามันและใครบางทไมไดบูชามัน แตทดวงตา
ุ
ี่
่
ั
ี่
้
ู
ี่
้
่
้
่
็
ของฉนบอดนั้นมันเปนค าบัญชาจากฝากฟา พระเจาของฉนเปนผูทรงอ านาจทจะใหคนดวงตาของ
ั
้
้
็
้
ั
้
ื
ี่
้
็
ิ
ุ
ั
ึ
ฉนใหสามารถมองเหนได” ในวันร่งข้นปรากฏว่าดวงตาของนางสามารถมองเหนได้ตามปกต ชาว
็
้
็
็
กุรอยช์มักกะฮ์จงพากันกล่าวว่าเปนมายากลของนบมหัมมัด (Al-Baladhuri, 1959: 1/196)
ี
ุ
ึ
การคกคามต่อสตรทเข้ารบอสลามไม่ได้เกิดข้นเฉพาะในนครมักกะฮ์เท่านั้น แม้แต่สตร ี
ึ
ั
ิ
ุ
ี่
ี
มสลมบางคนทอยู่ในนครมะดนะฮ์ก็ประสบกับชะตากรรมน้ด้วย ตัวอย่างเช่น นางเหาวาอ์ บนต์ ยะ
ี
ี่
ุ
ิ
ี
ิ
2
่
ึ
ซด อบน สนาน ซงเปนภรรยาของก็อยส อบน อัลคอฏม นักกวีทโด่งดังคนหนงจากเผ่าเอาสใน
ิ
ี
์
ุ
็
์
่
ี
ิ
ุ
ิ
ึ
ี่
3
ี
ี
ี
ี
ิ
ี่
ิ
ี
นครมะดนะฮ์ นางเข้ารบอสลามก่อนทท่านนบ ฮจเราะฮ์ไปยังนครมะดนะฮ์เสยอก ในขณะท ี่
ั
1
บางรายงานกล่าวว่าอมัร อบน อัลค็อฏฏอบเปนผู้ท ารายนาง ในขณะทบางรายงานกล่าวว่านางถกอบ ญะฮล์ท า
้
ุ
ู
็
ุ
ู
ฺ
ิ
ี่
้
ราย (Al-Baladhuri, 1959: 1/196)
2 มบางทัศนะเหนว่าสามของนางเหาวาอ์ชอ ก็อยส อบน ชัมมาส ( ) แต่ในทัศนะของอบน อัลอะษร
ี
ี
็
ิ
์
ุ
ุ
ื่
ี
ิ
ี
ี
ุ
ิ
เหนว่าก็อยส อบน อัลคอฏมน่าจะถกต้องมากกว่า เพราะสอดคล้องกับรายงานของมศอับ อัลซบัยรย์ และ
ุ
็
์
ู
ุ
ิ
ี
รายงานของอบน อสหาก ซงทั้งสองอยู่ในกล่มนักรายงานชาวมะดนะฮ์ อกทั้งทั้งสองรบรายงานจากอาศม อบน ุ
ิ
ิ
ั
ิ
ุ
ึ
่
ุ
ี
ิ
้
ุ
ุ
่
อัมร อบน กอตาดะฮ์ซงเปนผู้รอบรเกี่ยวกับเรองราวมสลมชาวมะดนะฮ์มากทสดคนหนง (Ibn al-Athir, 1994:
ุ
ื่
ิ
ึ
ู
์
ี
่
ี่
ึ
็
7/75-76)
3
็
อบน หะญัรมความเหนว่า นางเหาวาอ์น่าจะเข้ารบอสลามในช่วงระหว่างเหตุการณสัญญาอะเกาะบะฮ์คร้งท 1
ั
ิ
ุ
ิ
ี่
ั
ี
์
กับคร้งท 2 ส่วนเหตุการณทท่านนบ ได้พบกับสามของนางและขอรองให้เขาปฏบัตดต่อนางนั้นน่าจะเกิดข้น
ี
ี
ั
้
ี่
ึ
ิ
ิ
ี่
ี
์
์
ื่
ระหว่างเหตุการณสัญญาอะเกาะบะฮ์คร้ ังท 2 กับคร้งท 3 ทั้งน้เนองจากว่าชาวมะดนะฮ์นั้นได้มโอกาสเข้าพบ
ี
ี
ั
ี่
ี
ี่
ั
ั
ี
ึ
ี
ี
ี่
และท าสัญญาอะเกาะบะฮ์กับท่านนบ จ านวนสามคร้งด้วยกัน คร้งแรกเกิดข้นโดยทมชาวมะดนะฮ์ไม่กี่คน
ุ
ิ
ิ
ี
ิ
เข้าร่วมเหตุการณ พวกเขากลับไปยังนครมะดนะฮ์โดยปดบังความเปนมสลมไว้ พวกเขาพยายามเผยแผ่อสลาม
็
์
ี่
ี
ี
ุ
ี
ี
ี่
ในนครมะดนะฮ์อย่างลับๆ ในกล่มทไว้วางใจเท่านั้น ในปถัดมามชาวมุสลมมะดนะฮ์ทเปนชายจ านวน 12 คนมา
ิ
็
่
ึ
ี
ี
ี่
ี
ี
พบและท าสัญญาอะเกาะบะฮ์กับท่านนบ ซงเรยกกันว่าสัญญาอะเกาะบะฮ์คร้ ังท 1 และในปต่อมามชาว