Page 184 - 022
P. 184
184
ู
ิ
ึ
ั
ี
็
สามของนางยังเปนผู้ปฏเสธ นางจงถกสามของนางกลั่นแกล้งรงควานอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่พอใจ
ี
ี
้
ี่
ึ
ิ
ิ
ุ
์
ื่
ี
ั
ี
ึ
ทนางเข้ารบอสลาม จนกระทั่งเรองน้ทราบถงท่านนบ วันหนงก็อยส อบน อัลคอฏมพรอมกับ
่
ิ
ิ
ิ
ึ
ุ
คณะชาวมะดนะฮ์กล่มหนงเดนทางมายังนครมักกะฮ์เพื่อเจรจาท าสนธสัญญากระชับมตรภาพกับ
่
ี
ึ
ี
ิ
็
ุ
้
ชาวกุรอยช์มักกะฮ์ เมอท่านนบ ทราบจงเข้าไปพบก็อยส อบน อัลคอฏมพรอมกับเชญชวนให้
ื่
์
ิ
ี
1
ึ
ิ
ิ
ั
้
ี่
ี
เข้ารบอสลาม แต่เขาปฏเสธไม่พรอมทจะเข้ารบอสลาม ท่านนบ จงได้ขอรองให้เขาปฏบัตดต่อ
ิ
ั
ิ
้
ี
ิ
ี่
้
ิ
ั
ิ
ิ
ภรรยาของเขาและยุตการกลั่นแกล้งและท ารายนาง เขาก็รบปากทจะปฏบัตตามค าขอรองของท่าน
้
นบ (Ibn ‘Abd al-Barr, 2006: 2/ 503; Ibn al-Athir, 1994: 7/75-76)
ี
ี
ี่
์
ุ
์
จากปรากฎการณทางประวัตศาสตรทกล่าวมาทั้งหมดข้างต้น สรปได้ว่าเศาะหาบยาตในยุค
ิ
สมัยของท่านนบ มีบทบาทส าคัญอย่างยิ่งยวดในการเผยแผ่ศาสนาอสลามทั้งโดยตรงและโดย
ิ
ี
ิ
ิ
อ้อม พวกนางมส่วนร่วมในการเผยแผ่ศาสนาอสลามตั้งแต่เร่มแรกของการประกาศศาสนาอสลาม
ี
ิ
ื
พวกนางท าหน้าทเปนนักดะอ์วะฮ์หรอนักเผยแผ่ศาสนาอสลามทั้งในระดับครอบครวและสังคม
ี่
ั
็
ิ
อย่างกว้างขวางตามศักยภาพและโอกาสทจะเอ้ออ านวยแก่พวกนาง อกทั้งพวกนางท าหน้าทเปน
ี
ี่
ี่
็
ื
ี
ิ
ื
์
ิ
็
ื่
สะพานเชอมต่อความสัมพันธทางเครอญาตและการแผ่ขยายของศาสนาอสลามได้เปนอย่างด ใน
้
ี
ุ
ู
ี่
บางกรณการท าหน้าทเผยแผ่ศาสนาของพวกนางอาจต้องเผชญกับการคกคามและถกท ารายใน
ิ
ู
ลักษณะต่างๆ จากศัตรของอสลาม แต่ด้วยความอดทนและความมั่นคงยืนหยัดในอดมการณของ
ุ
ิ
์
อสลามของพวกนาง ท าให้ศัตรผู้ทม่งรายต่ออสลามบางท่านกลับกลายเปนผู้ทสวามภักด์ต่ออสลาม
ิ
ิ
ี่
ุ
็
ู
ิ
ิ
ี่
้
ิ
ิ
อย่างส้นเชง
ิ
3) ใหที่พักอาศยแกผูอพยพ
้
ั
่
้
ุ
ี่
ี
ิ
ี
หลังจากทท่านนบ ได้อพยพไปยังนครมะดนะฮ์ มมสลมจ านวนมากในนครมักกะฮ์ได้
ี
ุ
์
ุ
ิ
ิ
ึ
่
ิ
ี
ี
อพยพตดตามท่านนบ มายังนครมะดนะฮ์ ซงในประวัตศาสตรได้ขนานนามมสลมผู้อพยพกล่ม
ุ
ิ
น้ว่า “ชาวมฮาญรีน ( )” และได้ขนานนามชาวมะดนะฮ์ทให้การต้อนรบกล่มมฮาญรนน้ว่า
ั
ุ
ิ
ี
ี
ุ
ี
ี่
ี
ี
ิ
ี
์
ิ
“ชาวอันศอร ( ) ” หลังจากมชาวมฮาญรนได้ย้ายถ่นฐานเข้ามายังนครมะดนะฮ์เปนจ านวนมาก
็
ี
ุ
็
ี่
ี
่
ึ
มุสลมมะดนะฮ์ทเปนชายจ านวน 72 คนและหญงอก 2 คน มาท าสัญญาอะเกาะบะฮ์กับท่านนบ ซงเรยกกัน
ี
ิ
ิ
ี
ี
ว่าสัญญาอะเกาะบะฮ์คร้งท 2 (Ibn Hajar, 1853: 8/55)
ี่
ั
1
่
ุ
ิ
ึ
ุ
อบน หะญัรกล่าวว่า สะอด อบน อัลอัสกะรย์ได้น ารายชอบคคลน้เข้าไปในกล่มของเศาะหาบะฮ์ ซงไม่ค่อยแน่
ี
ุ
ิ
ี
ื่
ุ
ี
ี
ี
ชัดว่าเขาเปนเศาะหาบะฮ์จรงหรอไม่ นักสเราะฮ์เล่าว่าเขาเคยพบกับท่านนบ ทนครมักกะฮ์ ท่านนบ ได้
ื
ี
ิ
ี่
็
ั
ึ
ั
ิ
ึ
เชญชวนเขาให้เข้ารบอสลามและได้อ่านโองการอัลกุรอานให้เขาฟงอกด้วย เขารสกถงความอัศจรรย์ของอัล
ิ
ี
้
ู
่
ี
ึ
ิ
ึ
่
ี
ั
ี
กุรอาน และได้ขอเวลาหนงปเพื่อพิจารณาเข้ารบอสลามและสัญญาว่าจะกลับมาหาท่านนบ อกคร้งหนงในป ี
ั
ึ
ี่
ี
หน้า แต่เขาได้เสยชวิตก่อนถงเวลาทสัญญาไว้ (Ibn Hajar, 1853: 5/288)
ี