Page 60 - 018
P. 60
60
โปรงใส่ พวกเขาก็จะได้รบความจําเรญในการซ4อขายนั4น” (บันทก
ั
ิ
ึ
ื
โดย al-Bukhariy,nd.: 2004 และ Muslim,n.d.: 3937)
ิ
ิ
ิ
ี9
็
ี
9
ึ
ี
หะดษข้างต้นได้ช4ให้เหนว่า ความยุตธรรมของอสลามทห้ามมให้เอาเปรยบซงกัน
ี
และกันระหว่างผู้ซ4อกับผู้ขายแม้ว่าการค้าขายนั4นเกิดจากความพึงพอใจซงกันและกันแล้ว แต่เพื9อ
9
ื
ึ
ื
ี9
ิ
่
ื9
ความเปนธรรมแก่ทั4งสองฝาย สนค้าทผู้ขายมอบให้กับผู้ซ4อยังสามารถพิจารณากันได้ทั4งในเรอง
็
ี9
่
ราคาหรอคณภาพ ซงในระหว่างนั4น ถ้าหากทั4งสองฝาย มความไม่พอใจในสนค้าทตัวเองทําการค้า
ิ
ื
9
ึ
ี
ุ
ื
ขายกันไม่ว่าจะเปนเรองราคาหรอคณภาพ ก็เปนสทธแก่ทั4งสองฝายทจะยกเลกการค้าขายกัน ตราบ
ุ
ื9
ิ
ี9
่
ิ
ิ
็
็
ึ
9
ุ
ี9
ิ
้
ี
ิ
่
ิ
ใดทั4งสองฝายยังมได้แยกจากกัน ซงเหตผลทศาสนาอสลามได้กําหนดบทบัญญัตเช่นน4ก็เพื9อปองกัน
ี9
่
ึ
การหลอกลวงทอาจจะเกิดข4นกับทั4งสองฝาย (al-Asqalaniy,nd: 4/334)
ี
ี9
ึ
9
คร4งหนง ขณะทท่านนบ() เดินผ่านหน้าพ่อค้าข้าวบาร์เล่ย์ ท่านเกิดความอยากรู้
ั
ึ
์
ุ
ื
็
อยากเหนอะไรบางอย่าง ท่านจงได้เอามอจ่มแล้วลงไปในกองเมล็ดข้าวบารเล่ย์นั4นและพบว่ามัน
ี
ั
ี9
ึ
ี
เปยกช4น ท่านจงถามพ่อค้านั4นว่า : อะไรน พ่อค้าตอบว่า : เพราะโดนฝนครบท่าน ท่านนบ()
ื
จงได้กล่าวแก่พ่อค้าผู้นั4นว่า :
ึ
(( ﲏﻣ ﺲﻴﻠﻓ ﻰﺸﻏ ﻦﻣ سﺎﻨﻟا ﻩاﺮﻳ ﻲﻛ ﱴﺣ مﺎﻌﻄﻟا قﻮﻓ ﻪﺘﻠﻌﺟ ﻼﻓأ ))
ื9
ึ
ึ
็
ความว่า: “ทําไมท่านจงไม่ยกมันข4นข้างบนเพื9อให้คนอนเหนเล่า
ึ
ี9
ิ
คนทหลอกลวงย่อมมใช่พวกของฉัน” (บันทกโดย Muslim,
n.d.:295)
ิ
็
ื9
ี
หะดษข้างต้นได้ให้เหนว่า การหลอกลวงเปนพฤตกรรมทเอาเปรยบผู้อน เปนการ
็
ี9
ี
็
่
้
ึ
ั
็
กินทรพย์สนของผู้อนโดยมชอบ โดยฝายหนงขาดทน และฝายหนงได้กําไร และเปนการสรางความ
9
ิ
ิ
ึ
ุ
่
ื9
9
ิ
เปนศัตรกันระหว่างทั4งสองฝาย ตลอดจนเปนการสรางความอาฆาตแค้นและการเผชญหน้ากันซง
่
็
็
ึ
้
ู
9
ี9
์
็
ิ
ิ
ี
ี
ิ
พฤตกรรมเช่นน4 ท่านนบได้ปฏเสธความเปนประชาชาตทสมบูรณของผู้นั4น
ั
้
2.6.2 การไดมาของทรพยสนหะรอมโดยการเห็นชอบและการยินยอมของผูครอบครอง
้
์
ิ
ั
ี
็
ิ
บางคร4 ัง วิธการได้มาของทรพย์สน อาจผ่านการเหนชอบและการยินยอมของเจ้า
ิ
ี9
ื
็
ั
ิ
ิ
ทรพย์ แต่เปนวิธการทมชอบด้วยกฎหมายอสลาม โดยตามหลักกฎหมายอสลามจะถอว่า อัลลอฮ ฺ
ี
ึ
ี
็
ี
ี9
ี
็
ิ
เปนผู้ครอบครอง และเปนเจ้าของสรรพส9งทั4งมวลทมอยู่ในโลกน4 ฉะนั4นด้วยหลักการดังกล่าวน4 จง