Page 59 - 018
P. 59
59
ี
ี9
็
็
ี
ิ
ุ
ื
หะดษทั4งสองข้างต้นได้ช4ให้เหนว่า การกักตนสนค้าทเปนอาหารหลักของชาวเมอง
ื
็
ี
ื9
้
ิ
ิ
้
็
นั4น เปนส9งต้องห้ามในกฎหมายอสลาม เพราะเปนการเอาเปรยบผู้อนและสรางความเดอดรอนให้แก่
สังคม (al-Nawawiy,1392: 5/ 482)
2.6.1.5 การหลอกลวง
ื
การหลอกลวงคอ ล่อให้เข้าใจผิด แสดงข้อความอันเปนเท็จหรอปกปด
ิ
็
ื
9
ึ
ุ
ุ
ข้อความซงควรบอกให้แจ้ง เพื9อให้บคคลอนเข้าใจผิด (พจนนกรมฉบับ
ื9
ราชบัณฑตยสถานพ.ศ 2542)
ิ
ึ
ึ
การหลอกลวงซงสอดคล้องในภาษาอาหรบกับคําว่า (ﺶﻐﻟا)หมายถง
ั
9
" ﺮﻤﻀﻳ ﲑﻏ ﻪﻟﺮﻬﻇأو ﺔﺤﻠﺼ ﳌا ﲑﻏ ﻪﻟ ﻦﻳز "
ุ
ิ
ิ
็
ี9
ี9
ิ
ความว่า: การแสดงในส9งทเปนเท็จและปดบังวัตถประสงค์ทแท้จรง
(Qal ‘Ajy wa Qunaibiy, 1988:2/ 653)
ท่านนบ()ได้กล่าวถึงการหลอกลวง ว่า
ี
(( ﺎﻨﻣ ﺲﻴﻠﻓ ﺎﻨﺸﻏ )) ﻦﻣ
ความว่า : “ คนทหลอกลวงเรานั4น เขาย่อมมใช่พวกของเรา”
ิ
ี9
(บันทกโดย Muslim, n.d.:294)
ึ
ี
ิ
จากหะดษข้างต้น การทท่านนบได้ปฏเสธบคคลทหลอกลวงว่า มใช่พวกเรา
ิ
ุ
ี9
ี
ี9
ิ
็
ิ
็
ั
ี
นั4น ได้ช4ให้เหนว่าการหลอกลวงนั4นเปนพฤตกรรมทต้องห้ามในบทบัญญัตอสลามและทรพย์ทก่อ
ิ
ี9
ี9
ี9
เกิดจากการหลอกลวงนั4นถอเปนทรพย์สนทหะรอม (al-Suyutiy,1988:208)
ิ
ั
ื
็
็
ื
ู
ื9
ุ
ื9
ิ
ื
อสลามคัดค้านการหลอกลวงทกรปแบบไม่ว่าจะเปนการซ4อขายหรอเรองอนๆ
ุ
ื9
ิ
ระหว่างเพื9อนมนษย์ด้วยกัน อสลามสอนให้มนษย์จะต้องซอสัตย์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ ์
ุ
ใดก็ตาม ท่านนบ ()ได้กล่าวว่า :
ี
( ( ﺎﻤﻬﻌﻴﺑ ﰲ ﺎﻤﳍ كرﻮﺑ ﺎﻨﻴﺑو ﺎﻗﺪﺻ نﺈﻓ ﺎﻗﺮﻔﺘﻳ ﺎﻣ ﱂ رﺎﻴﳋﺎﺑ نﺎﻌﻴﺒﻟا ) )
ิ
ี9
ิ
ื
ี
ความว่า : “ผู้ซ4อและผู้ขายย่อมมสทธทจะเลอกตัดสนใจได้ตราบใด
ิ
ื
่
ิ
ิ
ท ทั4งสองฝายยังมได้แยกจากกัน ถ้าหากต่างคนต่างจรงใจและ
ี9