Page 258 - 017
P. 258

258






                                     5.2.2.1 การดะอฺวะฮฺด้วยวิธีการเผยแผ่วิทยาการอิสลาม


                                     บรรดาอุมมะฮาตอัลมุอ๑มินีนเป็นผู๎ที่มีบทบาทในการเผยแผํวิทยาการอิสลาม สํวน

                      หนึ่งคือ การเผยแผํวิชาการความรู๎อิสลาม (อัลกุรอาน หะดีษ) การตอบปัญหาศาสนา การเป็น

                      สื่อกลางระหวํางเศาะหาบิยะฮกับทํานนบี   และบทบาทสําคัญภายหลังจากที่ทํานนบี   เสียชีวิต

                      คือ การเป็นแหลํงที่มาของวิทยาการอิสลาม โดยเฉพาะทํานหญิงอาอิชะฮฺ      ดังที่ Muhammad

                      Ibrāhīm (1995: 273) กลําววํา‚ภายหลังจากที่ทํานเราะสูล    เสียชีวิต อุมมะฮาตอัลมุอ๑มินีนหลาย

                      ทํานก็ยังมีชีวิตอยูํ รวมถึงทํานหญิงอาอิชะฮฺ    ทํานหญิงได๎ใช๎ชีวิตในบั้นปลายของทํานด๎วย

                      กิจกรรมที่ให๎ประโยชน๑แกํอิสลามและบรรดามุสลิมหลายประการ โดยเฉพาะในด๎านการดะอฺวะฮฺ

                      และการสั่งสอนถํายทอดวิทยาการอิสลาม ‛ สอดคล๎องกับที่ Ibn Qayyim     (1987: 349) กลําววํา


                      ‚ทํานหญิงอาอิชะฮฺ      มีบทบาทที่สํงผลดีในชํวงท๎ายของอิสลาม  นางมีความรู๎ความเข๎าใจใน

                      เรื่องของศาสนา และมีความรู๎ความเข๎าใจถึงการเผยแพรํศาสนาให๎แกํประชาชาตินี้ได๎รับ ‛ ทํานหญิง


                      อาอิชะฮฺ     มีความโดดเดํนในวิชาการหะดีษ เป็นสตรีที่จดจําหะดีษได๎มากที่สุดในหมูํสตรี และ
                      มากที่สุดเป็นลําดับที่สามรองจากเศาะหาบะฮฺสองทําน สอดคล๎องกับผลการศึกษา ของ Ramadฺān al-

                      Zaiyān  (2005:  1430) ที่วํา บทบาทด๎านการดะอฺวะฮฺของทํานหญิงอาอิชะฮฺ     ในด๎านหะดีษ

                      แสดงให๎เห็นถึงบทบาทของนางในด๎านความรู๎ทํามกลางบรรดาเศาะหาบะฮฺ ‛ และภรรยาทํานนบี

                          อีกทํานที่มีความสําคัญอีกคือ ทํานหญิงอุมมุส ะละมะฮฺ    ดังที่ Khalid  bin  Muhammad


                      (2010: 2/77) กลําววํา ‚สํวนหนึ่งจากความรู๎ที่ดีงามและการวินิจฉัยปัญหาศาสนา ที่มีหลักฐานอ๎างอิง

                                     ํ
                      ซึ่งให๎ประโยชน๑ตอประชาชาติอิสลามได๎แกํ สิ่งที่ได๎รายงานจากทํานหญิงอุมมุสะละมะฮฺ    นาง
                      เป็นผู๎หนึ่งที่ให๎คําชี้ขาดปัญหาศาสนาแกํสตรีในสมัยนั้น ‛ ความรู๎อิสลามได๎รับการถํายทอดสืบสาย

                      เรื่อยมาจากเศาะหาบะฮฺ เศาะหาบียะฮฺ ยุคตาบิอีน และเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

                        ความรู๎ที่เป็นวิทยาการอิสลาม เป็นสิ่งที่สําคัญในการดําเนินชีวิตของผู๎ศรัทธา และ

                      ผู๎ที่ความรู๎และไมํมีความรู๎นั้นมีสถานะที่ไมํเทําเทียมกัน ดังที่อัลลอฮฺ    ได๎ตรัสไว๎ในเชิงของการ

                      ตั้งคําถามวํา



                                              …                                        …



                                     9
   253   254   255   256   257   258   259   260   261   262   263