Page 127 - 013
P. 127
127
็
ิ
ุ
ั
ตอนท 2 เปนแบบสอบถามสาเหตของความขัดแย้งได้ปรบปรงจากแนวคดของ
ุ
ี่
็
ิ
ุ
นวแมนและบรล (Pneuman and Bruehl) แบ่งออกเปน 3 ด้าน คอ องค์ประกอบด้านบคคล
ู
ื
ิ
ุ
์
ปฏสัมพันธในการท างาน และสภาพขององค์การ ลักษณะของแบบสอบถามสาเหตของความ
ี่
ี
ขัดแย้งแบบมาตราประมาณค่า (Rating Scale) ม 5 ระดับ คอ มากทสด มาก ปานกลาง น้อย
ื
ุ
ุ
น้อยทสด โดยผู้วิจัยได้ก าหนดเกณฑ์การให้คะแนนและเกณฑ์การแปลความหมาย (บญชม ศร ี
ี่
ุ
สะอาด, 2544 : 103)
ี
ิ
ตอนท 3 เปนแบบสอบถามเกี่ยวกับวิธการจัดการกับความขัดแย้งของผู้บรหาร
็
ี่
ี
ี
ี่
ี
ื
ี
ี
ี
ี่
ิ
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามม 7 วิธ คอ วิธบังคับ วิธหลกเลยง วิธไกล่เกลย วิธเผชญหน้า
ี
ี
ิ
ี
ื
ี
ี
วิธประนประนอม วิธการปรองดอง และวิธร่วมมอ แต่ละวิธประกอบด้วยการจัดการกับความ
ี
ี
ขัดแย้ง 5 ข้อ รวม 35 ข้อ เปนมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) 5 ระดับ คอ (Best &
ื
็
Kahn, 1993, 246-250)
ตอนท 4 เพื่อประมวลข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธการจัดการความขัดแย้งของ
ี่
ี
ั
ผู้บรหารโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดปตตาน ี
ิ
ี
ิ
้
2.2 เครองมือทีใชในการสมภาษณ ์
ื่
ั
์
ื
ื
ื่
ี่
เครองมอทใช้ในการสัมภาษณ คอ แบบสัมภาษณ โดยผู้วิจัยจะท าการสัมภาษณ ์
์
ี
ี่
ุ
ุ
่
็
ุ
ึ
เปนรายบคคล ซงเปนการพูดคยตัวต่อตัวระหว่างผู้วิจัยและผู้ให้ข้อมูล มจดม่งหมายทจะเข้าใจ
็
ุ
ิ
ปรากฏการณ และประสบการณในชวิตจรงของผู้ให้สัมภาษณเกี่ยวข้องกับการจัดการความขัดแย้ง
ี
์
์
์
ี
ิ
ึ
ี
ิ
ิ
ของผู้บรหารโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดปตตาน โดยเน้นการศกษาในชวิตจรง
ั
ี
์
็
์
ุ
ิ
ซงเปนแบบสัมภาษณปลายเปดแต่เน้นการเจาะลกของการสัมภาษณ (In-depth interview) จากกล่ม
ึ
่
ึ
ิ
ตัวอย่าง นอกจากน้ผู้วิจัยจะใช้เอกสารทเกี่ยวข้อง (Related document) ในการสนับสนนการอธบาย
ี่
ุ
ี
ิ
ี
เกี่ยวกับรปแบบการจัดการศกษาการบรหารจัดการความขัดแย้งของผู้บรหารโรงเรยนเอกชนสอน
ู
ึ
ิ
ื
ื่
่
ศาสนาอสลาม และเครองมอหนงทส าคัญในการวิจัยคร้งน้ คอ ตัวผู้วิจัยเอง เพราะผู้วิจัยเองเปนผู้ทม ี
็
ั
ึ
ื
ี่
ิ
ี่
ี
ื่
ี
็
ี่
์
ิ
ุ
์
บทบาทส าคัญในกระบวนการวิจัยเนองจากเปนผู้ทมปฏสัมพันธโดยตรงต่อเหตการณ เพื่อจะได้
์
ี่
ุ
รวบรวมข้อมูลทเก็บมาวิเคราะห ตลอดจนการหาข้อสรปเกี่ยวกับการงานวิจัยดังกล่าว