Page 19 - 005
P. 19
19
ึ
ี่
ิ
ู
ึ
ั
และจากการศกษารปแบบการบรหารงานวิชาการในเขตพื้นทการศกษาส าหรบ
ี
ห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ของสวิมล เข้ยวแก้ว และคณะ (2545) ได้น าเสนอผลการวิจัยในส่วนของ
ุ
ุ
ึ
ี่
็
ุ
ึ
ี่
การประกันคณภาพไว้ว่า งานประกันคณภาพการศกษา เขตพื้นทการศกษาจะต้องท าหน้าทเปน
ี่
ี่
ิ
หน่วยประเมนภายนอกของสถานศกษา และท าหน้าทประเมนภายในของเขตพื้นทการศกษาด้วย
ึ
ึ
ิ
ึ
โดยจัดให้มคณะกรรมการประเมนคณภาพการศกษา ซงมบทบาทหน้าทคอการก าหนดนโยบายด้าน
ี
ุ
ิ
ึ
ี
่
ี่
ื
ประกันคณภาพของเขตพื้นทการศกษาและสถานศกษา ก าหนดมาตรฐานตัวบ่งช้ และเกณฑ์ให้
ุ
ี
ึ
ึ
ี่
ุ
สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานของส านักงานรบรองมาตรฐานและประเมนคณภาพการศกษา (สมศ.)
ิ
ึ
ั
ี่
ึ
ึ
์
รวมทั้งค านงถงความเหมาะสมของเขตพื้นทการศกษา และมหน้าทในการประชาสัมพันธ ประชม
ึ
ี่
ี
ุ
ึ
ุ
อบรมให้บคลากรทกฝายทเกี่ยวข้องในการประกันคณภาพการศกษา
่
ุ
ุ
ี่
ึ
ข้อเสนอแนะจากการศกษาข้างต้นมความสอดคล้องกับสภาพปญหาของโรงเรยน
ี
ั
ี
ิ
ุ
เอกชนสอนศาสนาอสลามทางด้านการประกันคณภาพ ดังผลการวิจัยของมูฮัมมัดฮลม อซน
ู
ี
ิ
ิ
(2549) ทได้วิจัยการด าเนนงานประกันคณภาพการศกษาในของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม
ิ
ี
ุ
ี่
ิ
ึ
่
ั
ี่
ซงพบว่า ส่วนใหญ่มปญหาอปสรรคในการด าเนนงานประกันคณภาพการศกษาโดยปญหาทพบ
ั
ึ
ี
ุ
ึ
ิ
ุ
มากทสดเปนปญหาเดยวกัน คอ ภาระงานของผู้บรหาร คร บคลากรมมากจนไม่สามารถปฏบัตงาน
ั
ิ
ุ
ี
ิ
ิ
็
ู
ื
ุ
ี
ี่
ี่
ู
ั
ุ
ิ
ั
ี่
ทกงานทได้รบมอบหมายได้ด ปญหาทพบรองลงมา คอ ผู้บรหาร คร บคลากรไม่เข้าใจการ
ื
ี
ุ
ี
ิ
ู
ั
จัดเตรยมเอกสารหลักฐานต่างๆส าหรบการประเมนภายนอก มความรความสามารถไม่เพียงพอต่อ
้
ี
็
ุ
ี่
งานทรบผิดชอบ งบประมาณไม่เพียงพอต่อการพัฒนาคณภาพให้เปนไปตามมาตรฐานท ี่
ั
ึ
ึ
ุ
ื่
สถานศกษาก าหนด และการช้แจงการให้ความรเรองการประกันคณภาพการศกษาจากแหล่งต่างๆ
้
ี
ู
ึ
ไม่ตรงกัน ท าให้สถานศกษาสับสน
ิ
ี
ี
นอกจากน้ ศร ถอาสนา (2549) ได้น าเสนอภาพรวมของผลการด าเนนการประกัน
ิ
ิ
ึ
ุ
คณภาพในสถานศกษาประเภทและระดับต่างๆว่า มปญหาอปสรรคหลายประการ เปนต้นว่าความ
็
ั
ุ
ี
ุ
ื
เข้าใจและความร่วมมอของบคลากรต่อการพัฒนาระบบการประกันคณภาพภายในสถานศกษา
ึ
ุ
ยังเข้าใจไม่ตรงกันและยังไม่ให้ความร่วมมออย่างเพียงพอ โรงเรยนส่วนใหญ่ยังขาดความมั่นใจใน
ี
ื
ี
ิ
การด าเนนงาน และยังไม่มการบูรณาการระบบประกันคณภาพเข้ากับการบรหารงานปกต และ
ิ
ิ
ุ
พบว่าสถานศกษาส่วนใหญ่จะประเมนตนเองไม่เปนระบบ และยังไม่ได้น าผลการประเมนไปใช้ใน
ึ
ิ
ิ
็
การวางแผนบรหาร พัฒนาปรบปรงสถานศกษาเท่าทควร นอกจากน้ครอาจารย์ยังมความเหนว่า
ี
็
ี่
ั
ึ
ุ
ิ
ี
ู
ี
ี
็
เปนการเพิ่มภาระงานถงแม้ว่าโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามจะมการด าเนนการเพื่อ
ิ
ิ
ึ
ึ
ี่
ิ
ี่
การประกันคณภาพการศกษาตามทระบไว้ในพระราชบัญญัต แต่กระบวนการทเกิดข้นดังกล่าวยัง
ุ
ึ
ุ
ี่
ิ
ุ
ไม่สามารถกระต้นให้เกิดกระบวนการคณภาพทแท้จรงในโรงเรยน บคลากรในโรงเรยนขาดความ
ุ
ุ
ี
ี
ี
ตระหนักและการมส่วนร่วมในการสรางคณภาพของการจัดการศกษาของโรงเรยน ดังนั้นเพื่อให้
ี
ึ
ุ
้