Page 12 - 0006
P. 12
3
ี
ุ
ิ
กาต กลุ่มคนดังกล่าวจึงไม่สามารถยกระดับคณภาพชวตตามเปูาหมายและเจตนารมณของซะกาต
์
ึ
ด้วยเหตุนี้ผู้วิจัยจึงต้องการศกษากระบวนการพัฒนาระบบการจัดการซะกาตแบบมีส่วนร่วมในสอง
จังหวัดน าร่อง คือ จังหวดสตูลและจังหวดพัทลุง เพื่อสร้างระบบการจัดการสถาบันซะกาตต้นแบบ
ั
ั
ของประเทศไทยต่อไป
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงการวิจัย
์
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ ดังนี้
1) เพื่อศึกษารูปแบบและวิเคราะห์ปัญหาการจัดการซะกาตของคณะกรรมการอิสลามประจ า
จังหวัดสตูลและจังหวัดพัทลุง
2) เพื่อน าเสนอระบบการจัดการซะกาตแบบมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อน าไปเป็น
ข้อเสนอแนะในการพัฒนาระบบการจัดการซะกาตในจังหวัดอื่นต่อไป
1.3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1) ประโยชน์ในทางวิชาการ
ั
ึ
นักวจัยได้รับทราบถงรูปแบบการจัดการซะกาตในจังหวดสตูลและจังหวดพัทลุง และ
ั
ิ
กระบวนการพัฒนาระบบการจัดการซะกาตที่ได้มาตรฐาน
2) ประโยชน์ต่อภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
คู่มือการจัดการซะกาตระดับจังหวัดและมัสยิด แนวปฏบัติงานด้านการจัดการซะกาตที่เป็น
ิ
มาตรฐาน มีแผนงานในการบริหารจัดการซะกาตที่เป็นระบบ มีคมือและแนวทางการจัดการที่เป็น
ู่
ั
รูปธรรม เพื่อการสร้างสวสดิการสังคมและลดความยากจนของสังคมมุสลิมในประเทศไทย
1.4 ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยนี้เป็นกระบวนการพัฒนาระบบการจัดการซะกาตของคณะกรรมการอิสลามประจ า
จังหวดสตูลและจังหวดพัทลุง โดยมีขอบเขตด้านเนื้อหา พื้นที่ และประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ั
ั
ดังต่อไปนี้
1) ขอบเขตด้านพนท ี่
ื้
พื้นที่ศกษาประกอบด้วยมัสยิด ส านักงานคณะกรรมการอิสลามประจ าจังหวดสตูลและ
ั
ึ
จังหวัดพัทลุง
2) ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรในการเก็บขอมูลประกอบด้วยบุคคลที่มีความเกี่ยวของกับกระบวนการพัฒนา
้
้
ระบบการจัดการซะกาตของคณะกรรมการอิสลามประจ ามัสยิด คณะกรรมการอิสลามประจ าจังหวัด