Page 10 - 0006
P. 10

1


                                                             บทที่ 1

                                                             บทน า




                       1.1 ความส าคัญและที่มาของปัญหาที่ท าการวิจัย
                                 ซะกาตเป็นหนึ่งในเสาหลักส าคัญทั้ง 5 ของหลักการอิสลามในคมภร์อัลกุรอานได้ระบุเรื่อง
                                                                                   ั
                                                                                      ี
                                                                                             ั
                       ซะกาตต่อท้ายหลังค าสั่งใช้ในการละหมาดในหลายโองการ แสดงให้เห็นภารกิจส าคญยิ่งของมุสลิม
                       สองประการนี้ นั่นคือการละหมาดเป็นหลักปฏิบัติที่ปัจเจกมีต่อพระเจ้า ขณะที่ซะกาตเป็นหลักปฏิบัติ
                       ที่เขาพึงมีต่อเพื่อนมนุษย์  ทั้งสองล้วนแล้วแต่เป็นการขัดเกลาตัวเองเพื่อแสวงหาความโปรดปรานจาก

                       พระเจ้าและการแสดงออกถึงการเป็นมุสลิมที่ดี  (อับดุลสุโก ดินอะ, 2555)
                                                        ึ
                               “ซะกาต” ในเชงภาษาหมายถง การเพิ่มพูนและความจ าเริญของการจ่ายซะกาต คอการ
                                            ิ
                                                                                                     ื
                       เพิ่มพูนผลบุญ ความหมายทางภาษาสื่อถึงความความเจริญงอกเงย ความเพิ่มพูน ทั้งผู้ให้และผู้รับซึ่ง
                       อยู่ในฐานะยากจน (อัลมัรดาวีย์ 3/3) ซะกาตมีอัตราส่วนที่แน่นอนที่เก็บจากทรัพย์สินแต่ละประเภท
                       ของมุสลิมที่เกินเกณฑ์ขั้นต่ าที่ศาสนาอิสลามระบุไว้ โดยซะกาตจะถกน าไปมอบให้กับผู้ที่มีสิทธได้รับ
                                                                                                     ิ
                                                                              ู
                       การช่วยเหลือตามที่ระบุไว้ 7 จ าพวกได้แก่ ผู้ที่ยากจน ผู้ที่ขัดสน เจ้าหน้าที่ในการรวบรวมซะกาต ผู้ที่

                       หัวใจได้รับการโน้มน้าว (สู่อิสลาม) การไถ่ทาส ผู้มีหนี้สินล้นตัว  ในหนทางของอัลลอฮฺ และผู้ที่อยู่ใน
                       ระหว่างเดินทาง (อับดุลเลาะ อับรู, 2549) ทรัพย์สินแต่ละประเภทมีอัตราการจัดเก็บ เกณฑ์ขนต่ า
                                                                                                      ั้
                       และรอบการช าระที่แตกต่างกันออกไปตามที่ศาสนทูตมูฮัมมัดได้วางแนวปฏิบัติเอาไว้

                              จากมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ ซะกาตเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม
                                             ่
                                                           ี
                       ของชมชนและประเทศ เชน การรักษาเสถยรภาพทางเศรษฐกิจ โดยซะกาตสามารถชะลอความ
                           ุ
                       ร้อนแรงในช่วงเศรษฐกิจเติบโตและพยุงความฝืดเคืองของเศรษฐกิจในยามตกต่ า นอกจากนี้ซะกาตยัง
                       ช่วยในกระจายรายได้และความมั่งคั่งในระบบเศรษฐกิจหมุนเวยนไปยังภาคส่วนต่าง ๆ ไม่กระจุกอยู่
                                                                          ี
                                                                             ่
                                                                      ึ้
                       เพียงเฉพาะกลุ่มซึ่งท าให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขน และชวยให้ระบบเศรษฐกิจเติบโตอย่าง
                       ยั่งยืน (Ibrahim, 2006)
                              การบริหารจัดการซะกาตในแต่ละยุคสมัยของประวัติศาสตร์อิสลามมีความแตกต่างกัน อาทิ

                       ในสมัยของศาสนทูตมูฮัมมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่เพื่อจัดเก็บซะกาต
                                                                                    ั
                       และมีการตั้งเสมียนซะกาตเพื่อบันทึกขอมูลที่เกี่ยวของ ท่านศาสนทูตคดเลือกผู้จัดเก็บซะกาตที่
                                                                    ้
                                                         ้
                       เหมาะสม มอบนโยบายการจัดเก็บซะกาตและวางระบบการตรวจสอบการท างานของเจ้าหน้าที่ด้วย
                       ตัวเอง ในสมัยของคอลีฟะฮ์ทั้งสี่ ได้มีการจัดตั้งกองคลัง (บัยตุลมาล) การเอาจริงเอาจังในการจัดเก็บ
                       ซะกาต การจัดแบ่งซะกาตไปยังกลุ่มคนต่าง ๆ ด้วยความโปร่งใสและยุติธรรม ในสมัยของคอลีฟะฮ์

                       อุมัรได้จัดวางโครงสร้างการจัดการด้านบัญชี ด้านทะเบียน รวมทั้งด้านการจัดเก็บและแจกจ่าย ที่เป็น

                       ระบบมากขึ้น ในภายหลังการจัดการซะกาตเริ่มลดความส าคัญลงไป อันเนื่องจากรายได้ของรัฐในส่วน
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15