Page 51 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 51
29
6. อัลกุรอาน หมายถึง คําตรัสของอัลลอฮ์ ที่ถูกส่งมายังท่านนะบีมุฮัมมัด
โดยผ่านทางมะลาอีกะฮฺญิบรีล ในความหมายและถ้อยคําที่ถูกต้องไม่สามารถลอกเลียนแบบได้
7. สูเราะฮฺ หมายถึง ชื่อบทของอัลกุรอานซึ่งมีทั้งหมด 114 บท
์
8. อายะฮ์ หมายถึง โองการต่าง ๆ ของอัลกุรอานที่อัลลอฮ ได้ประทานลงมาแก ่
ท่านนะบีมุฮัมมัด
9. อัลฮะดีษ หมายถึง คําพูด การกระทํา ตลอดจนการยอมรับของท่านนะบีมุฮัมมัด
ในการอธิบายขยายความ บทบัญญัติศาสนาอิสลามทั้งในเชิงทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติ
10. อะษัร หมายถึง คําพูดหรือการกระทําของเศาะฮาบะฮ์และตาบีอีน
11. อัลลอฮ์ หมายถึง นามของพระผู้เป็นเจ้าในศาสนาอิสลาม
12. เราะสูล หมายถึง ศาสนทูตของอัลลอฮ ที่พระองค์ได้ทรงคัดเลือกมาจาก
์
สามัญชนธรรมดาให้เป็นผู้ที่รับคําสอนจากพระองค์มาถือปฏิบัติและนําไปเผยแพร่แก่ผู้อื่น
13. เศาะฮาบะฮ์ หมายถึง ผู้ที่ได้พบกับศาสนทูตมุฮัมมัด ตลอดจนศรัทธาต่อท่าน
และเขาผู้นั้นเสียชีวิตในศาสนาอิสลาม
14. ตาบีอีน หมายถึง ผู้ที่ได้พบกับเศาะฮาบะฮ์ และได้เสียชีวิตในศาสนาอิสลาม
15. สะลัฟ หมายถึง บรรดากัลยานชนมุสลิมที่มีชีวิตอยู่ในช่วงสามศตวรรษแรกของ
ฮิจญ์เราะฮฺศักราช ซึ่งมีแนวทางที่สอดคล้องกับแนวทางของท่านนะบีและเศาะฮาบะฮ์ในเรื่องสัจธรรม
ความรู้และเตาฮีด ตลอดจนผู้ที่เจริญรอยตามแบบฉบับดังกล่าวจนถึงวันอาคิเราะฮ์
16. เคาะลัฟ หมายถึง อุละมาอ์กลุ่มหนึ่งที่มีชีวิตอยู่หลังสามศตวรรษแรกของ
อิสลาม อุละมาอ์เหล่านี้มีทัศนะต่อโองการกุรอานและฮะดีษศิฟาตว่าจะต้องตีความให้เหมาะสมกับ
คุณลักษณะของอัลลอฮ์ อันเนื่องมาจากคุณลักษณะของพระองค์นั้นแตกต่างกับสรรพสิ่ง ในขณะที่
โองการกุรอานและฮะดีษศิฟาตนั้นเป็นนัยจําเป็นจะต้องตีความ
1.9 วิธีด าเนินการวิจัย
1.9.1 เอกสารวิจัย
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยเลือกต้นฉบับหนังสืออะกีดะฮ์ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล
อัดดีน نيدلا ؿوصأ ملع ينجانلا ةديقع ( ที่จัดพิมพ์ครั้งที่ 4 โดยมักตะบะฮ์และมัฏบะอะฮ์ของ
)
มุฮัมมัด อันนะฮฺดีย์และลูก ๆ ของท่าน د كأك مد نلا دمعػ ةعبطمك ةب م ( ที่ได้รับอนุญาตจากชัยคฺ
)
ฮะสัน เบ็น อัลมัรฮูม ซัยนฺ อัลอาบิดีน ผู้เป็นบุตรของต่วนมีนาล