Page 50 - 067
P. 50
36
ี่
ตารางท94.2 ความเข้มข้นของกรดอินทรีย์หลังการหมักร่วมแบบแบทช์ระหว่าง POME และสาหร่าย
พุงชะโดที่ความเข้มข้นซับสเตรตร่วมเริ่มต้น 10 g-VS/L
Mixing ratio (VS Basis) Concentration (mM) pH pH
POME: C. demersum Acetic Butyric Propionic Lactic initial final
Control 14.6 7.2 1.6 11.0 5.50 4.59
100:0 36.4 11.1 0 20.8 4.45 4.95
90:10 48.8 18.3 0 17.5 4.55 5.03
80:20 41.6 13.6 3.2 27.0 4.67 5.09
70:30 37.9 12.9 3.5 25.7 4.80 5.15
60:40 35.1 11.5 3.7 20.2 4.94 5.21
50:50 33.6 10.9 5.8 17.1 5.11 5.34
40:60 35.8 9.6 5.4 15.3 5.32 5.49
30:70 28.4 7.5 6.2 9.9 5.61 5.45
20:80 29.7 6.2 5.7 9.9 5.87 5.49
10:90 25.7 5.6 9.8 5.1 6.22 5.65
0:100 23.6 5.1 8.0 5.0 6.53 5.61
4.2.2 ศักยภาพการผลิตแก๊สมีเทน (BMP) จากน้้าหมักขั้นตอนผลิตไฮโดรเจน
การผลิตมีเทนจากน้้าหมักขั้นตอนผลิตไฮโดรเจน ได้ถูกทดลองโดยใช้ขวดซีรัมขนาด 120 mL
(ปริมาตรใช้งาน 60 mL) โดยเติมสารละลายจากขั้นตอนการหมักของแต่ละชุดการทดลองของ
ขั้นตอนผลิตไฮโดรเจนปริมาตร 18 mL (ปริมาตรสุดท้ายหลังเก็บตัวอย่าง) ลงในขวดซีรัม จากนั้นเติม
กล้าเชื้อที่เตรียมไว้ 42 mL ปิดด้วยฝาจุกซิลิโคน และฝาจุกอะลูมิเนียมโดยใช้ Hand crimper เปลี่ยน
บรรยากาศภายใน Head space ให้เป็นแก๊สไนโตรเจน โดยพนไนโตรเจนผ่านเป็นเวลา 3-5 นาที
่
o
ุ
จากนั้นน้าไปบ่มที่สภาวะอณหภูมิห้อง (25-35 C) กล้าเชื้อที่ใช้ในการทดลองได้รับความอนุเคราะห์
3
จากถังปฏิกรณ์ชนิดท่อไหล (PFR) ขนาด 2000 m และมี HRT 40-50 วัน ของ บริษัท ปาล์ม
ื่
ุ
ั
พฒนาไบโอแก๊ส จ้ากัด อ.หนองจิก จ.ปัตตานี กล้าเชื้อที่ได้ถูกบ่มที่อณหภูมิห้อง 3 วัน เพอให้
จุลินทรีย์ย่อยสลายสารอินทรีย์ที่ยังเหลืออยู่ในกล้าเชื้อ
ผลการทดลองการหมักเพอผลิตมีเทนซึ่งใช้ระยะเวลาในการทดลอง 52 วัน (ภาพที่ 4.3) จะ
ื่
เห็นได้ว่ามีการผลิตแก๊สมีเทนเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ของการทดลอง เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้มีความ
คุ้นชินกับซับสเตรตที่ใช้และอยู่ในสภาวะกระตุ้น โดยผลผลิตมีเทนจากการใช้น้้าหมักจากขั้นตอนการ
ผลิตไฮโดรเจนด้วยการหมักร่วมระหว่าง POME และสาหร่ายพุงชะโดที่อตราส่วนผสมต่าง ๆ ดังแสดง
ั
ในภาพที่ 4.4 ผลผลิตมีเทนสูงสุดเท่า 410.4±18.7 ml-CH /g-VS added ได้จากน้้าหมักจากขั้นตอนการ
4
ผลิตไฮโดรเจนที่หมักเฉพาะ POME ผลผลิตมีเทนที่ได้จากน้้าหมักที่มีสาหร่ายผสมใน POME ที่
อัตราส่วนร้อยละ 10-60 มีแนวโน้มลดลง แต่ไม่แตกต่างอย่างมีนัยส้าคัญ (P-value>0.05) และเมื่อใช้