Page 49 - 067
P. 49

35






                       (Mixed cultures) เพื่อศึกษาผลของการผลิตไฮโดรเจนเกิดพร้อมกับการผลิตกรดอะซิติกและบิวทิริก
                                             ิ
                       และกรดอน ๆ เช่น โพรพโอนิก และกรด แลคติก (ตารางที่ 4.2)  ส่งผลให้ในระหว่างการผลิต
                               ื่
                       ไฮโดรเจนค่าพีเอชของน้้าหมักมีค่าลดลง ดังนั้นในระบบหมักผลิตไฮโดรเจนจ้าเป็นต้องใช้สารบัพเฟอร์
                       เพื่อควบคุม pH ในช่วงที่เหมาะสมส้าหรับการผลิตไฮโดรเจน (5-6) ซึ่งเป็นสภาวะที่เหมาะสมส้าหรับ

                       การเจริญเติบโตของกลุ่มแบคทีเรียผลิตไฮโดรเจน (Kengen et al., 2009) น้้าหมักซึ่งมีองค์ประกอบ
                       เป็นกรดอินทรีย์ชนิดต่าง ๆ ก็จะใช้เป็นซับสเตรตส้าหรับการผลิตแก๊สมีเทนในขั้นตอนที่สอง (ขั้นตอน
                                                                                       ุ
                                                                                               ั
                       การผลิตมีเทน) ผลิตไฮโดรเจนสูงสุดได้จากการหมักร่วม POME และสาหร่ายพงชะโดที่อตราส่วน VS
                       90:10 พร้อมกับผลผลิตกรดอะซิติก 48.8 mM, กรดบิวทิริก 18.3 mM และกรดแลคติก 17.5 mM
                              ทั้งนี้ผลผลิตของกรดที่เกิดขึ้นในระบบส่งผลให้ระบบมีความเป็นกรดมากขึ้น แต่ที่อตตร่าส่วน
                                                                                                 ั
                       ของ POME  ตั้งแต่ร้อยละ  40  ขึ้นไปพบว่าค่าความเป็นกรดที่วัดได้หลังหมักมีค่าที่สูงกว่า pH ก่อน
                       หมัก แต่เป็นช่วง pH ที่เหมาะสมส้าหรับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในกลุ่มที่ผลิตไฮโดรเจน ซึ่งการ
                       ลดลงของความเป็นกรดที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ว่ากรดกรดแลกติกที่มีปริมาณมากใน POME  ท้าให้ pH

                       เริ่มต้นต่้า แต่เมื่อมีกระบวนการหมักเกิดขึ้นจุลินทรีย์สามารถเปลี่ยนกรดแลกติกด้วยปฏิกิริยาการหมัก
                       และออกซิเดชันเป็นกรด กรดอะซิติกและโพรพิโอนิก (Willquist et al., 2012) ซึ่งมีค่าความเป็นกรด
                                                                            ิ
                                               ิ่
                       น้อยกว่าจึงเป็นผลให้มีการเพมขึ้นของ pH  หลังหมัก โดยกรดอนทรีย์มีค่าความเป็นกรดจากมากไป
                       น้อยดังต่อไปนี้ แลคติก (Ka=1.37×10-4) > อะซิติก (Ka=1.80×10-5) > บิวทิริก (Ka=1.51×10-5)
                       > โพรพิโอนิก (Ka=1.34×10-5) ตามล้าดับ
                              ผลการทดลองตารางที่ 4.2 พบผลผลิตไฮโดรเจนมีแนวโน้มลดลงเมื่อมีการผลิตกรด
                                   ิ่
                       โพรพโอนิกเพมขึ้นและยังคงมีผลผลิตกรดแลคติกอยู่ในระดับสูงผลผลิตไฮโดรเจนจากการหมัก
                            ิ
                       สารอินทรีย์ประเภทคาร์โบไฮเดรตถูกผลิตออกมาพร้อมกับกรดอะซิติกและกรดบิวทิริก ดังนั้นเมื่อกรด
                       อินทรีย์ชนิดอื่นถูกผลิตร่วมด้วยจึงส่งผลให้ผลผลิตไฮโดรเจนลดลง เนื่องจากระบบหมักมีความดันย่อย
                       ของไฮโดรเจนสูงจึงส่งผลให้แบคทีเรียเปลี่ยนวิถีของกระบวนการ (Pathway)  ผลิตเป็นกรดแลคติก
                       และหรือกรดโพรพิโอนิกเพิ่มมากขึ้น (Kongjan et al., 2009; Van Niel et al., 2003)
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54