Page 45 - 067
P. 45

บทที่ 4
                                                   ผลการวิจัยและอภิปรายผล


                                                ี
                       4.1 ศึกษาองค์ประกอบทางเคม และทางกายภาพของ POME และสาหร่ายพุงชะโด
                              น้้าทิ้งโรงงงานสกัดน้้ามันปาล์ม (POME) ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากโรงงานสกัดน้้ามันปาล์ม
                                   ั
                                                                                                ้
                                                                                                    ื่
                       บริษัท ปาล์มพฒนาชายแดนใต้ อ. หนองจิก จ. ปัตตานี ได้ถูกน้ามาแช่ตู้เย็นอุณหภูมิ 4   C เพอรักษา
                       สภาพของวัตถุดิบก่อนที่จะถูกน้ามาทดลอง POME  มีลักษณะที่ข้นและเป็นสีน้้าตาลและจากการ
                       วิเคราะห์องค์ประกอบหลักเป็นสารอินทรีย์ในรูปของของแขงระเหยได้ (VS) 63.5 g/L แสดงถึงปริมาณ
                                                                       ็
                       ของสารอินทรีย์ที่มาก  (ประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีนและกรดอินทรีย์ระเหยได้ (VFA))
                       ซึ่งหมายถึงมีความเหมาะสมในการบ้าบัดด้วยกระบวนการย่อยสลายแบบไร้อากาศที่มีการย่อยสลาย

                                                                                      ั
                       ด้วยจุลินทร์เป็นตัวหลักในกระบวนการย่อยสลายแบบไร้อากาศนี้ POME มีค่าอตราส่วนระหว่างคาร์บอน
                                                                                                        ั
                       ต่อไนโตรเจน (C/N) อยู่ในระดับสูงประมาณ 29 ในขณะที่ pH มีค่าค่อนข้างต่้าอาจเนื่องมาจากกรดไขมน
                                                                             ั
                       ของน้้ามันปาล์มดิบ และสันนิษฐานว่า POME  ที่เก็บมาจากบ่อพกน้้าเสียของโรงงานมีการหมักโดย
                                                                                   ั
                       จุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนอยู่ใน POME  ท้าให้มีการสร้างและสะสมของกรดไขมนระเหยได้ขึ้น โดยจะเห็นได้
                       ว่ามีปริมาณของน้้ามันและไขมันที่ปนอยู่ 15.08  g/L  เป็นองค์ประกอบอินทรีย์หนึ่งที่ย่อยสลายด้วย
                                                                                                    ิ่
                                                                                                      ึ้
                       จุลินทรีย์ได้ค่อนข้างยาก แต่พบรายงานว่าน้้ามันและไขมนสามารถให้ผลผลิตของแกสมีเทนที่เพมขนได้
                                                                    ั
                                                                                          ๊
                       (Angelidaki  et  al.,  1990) ในขณะที่สาหร่ายพุงชะโดซึ่งถูกเก็บจากคลองบริเวณรอบสวนสาธารณะ
                                                                                       ื่
                       เทศบาลเมืองปัตตานี และน้ามาระเหยน้้าออกโดยการตากแดดให้แห้งและบดเพอให้สาหร่ายพุงชะโดมี
                       อนุภาคขนาดเล็กลง (25  Mesh<0.707  mm) ซึ่งเป็นการเพมพนที่ในการย่อยสลายด้วยกระบวนการ
                                                                           ื้
                                                                        ิ่
                       เชิงกลเพื่อช่วยให้จุลินทรีย์ย่อยสลายได้ง่ายขึ้น จากนั้นน้าไปเก็บรักษาสภาพโดยการแช่เย็นที่อณหภูมิ
                                                                                                    ุ
                                                                                                     ิ
                       4  C ซึ่งจากการศึกษาหาลักษณะทางกายภาพและเคมีของพบว่าสาหร่ายดังกล่าวมีปริมาณสารอนทรีย์
                        ้
                       ประมาณร้อย 79.7 โดยน้้าหนักและมอตราส่วน C/N ประมาณ 17 ซึ่งค่อนข้างต่้าเมื่อเทียบกับ POME
                                                     ี
                                                       ั
                                            ุ
                       แสดงให้เห็นว่าสาหร่ายพงชะโดมีปริมาณไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบในปริมาณค่อนข้างสูง ตารางที่
                       4.1 แสดงสมบัติต่าง ๆ ของ POME และสาหร่ายพุงชะโด
                              สมบัติของทั้ง POME  และสาหร่ายพงชะโดซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งค่า
                                                             ุ
                       C/N  จึงสามารถน้ามาผสมกันเป็นซับสเตรตร่วมในกระบวนการย่อยสลายร่วมไร้อากาศ คาดว่าการ
                       ผสมกันของซับสเตรตสองชนิดสามารถส่งผลให้เพิ่มผลผลิตของทั้งไฮโดรเจนและมีเทนในกระบวนผลิต
                                                                            ั
                       ไร้อากาศสองขั้นตอน เนื่องจากการย่อยสลายร่วมจะเกิดปฏิสัมพนธ์เชิงบวก (Positive synergisms)
                       ต่อจุลินทรีย์ในระบบการย่อยสลายและช่วยเพมปริมาณสารอนทรีย์ที่สามารถถูกย่อยสลายด้วย
                                                               ิ่
                                                                            ิ
                       จุลินทรีย์ ปรับสัดส่วนสารอาหารหลักของ เช่นอตราส่วนระหว่างคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C:N)  และ
                                                               ั
                       อัตราส่วนระหว่างคาร์บอนต่อฟอสฟอรัส (C:P) ให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ลดการ
                       เกิดสภาวะกรดเฉียบพลันภายในถังปฏิกรณ์ เนื่องจากมี Buffering  capacity  เพมขึ้น และช่วยเจือ
                                                                                           ิ่
                                            ิ
                       จางความเข้มข้นของสารพษ (Toxic  compounds)  (Angelidaki  and  Ellegaard,  2003;  Costa
                       et al., 2012; Mata-Alvarez et al., 2000)
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50