Page 70 - 054
P. 70
49
2.1.10.3 พินัยกรรมท าเปนเอกสารลับฉบับละ 20 บาท
็
ั
2.1.10.4 ค่าคัดและรบรองส าเนาพินัยกรรมฉบับละ 10 บาท
่
2.1.10.5 ค่าปวยการพยานและล่ามไม่เกินวันละ 50 บาท (อัษฎางค์ พงษ์ตระกูล,
2547: 77)
2.2 พินยกรรมในอิสลาม
ั
ึ
ิ
่
ิ
่
ิ
ั
พินัยกรรม เปนนตกรรมอย่างหนง ซงกฎหมายอสลามได้ให้การยอมรบ แม้จะม ี
ึ
็
ลักษณะขัดกับหลักการก็ตาม กล่าวคอตามหลักการนั้นจะกระท านตกรรมได้ขณะทบคคลยังมชวิต
ื
ี่
ี
ิ
ิ
ี
ุ
ุ
ิ
ี
อยู่เท่านั้น หากบคคลได้ตายไปแล้วไม่สามารถท านตกรรมใดๆเกี่ยวกับทรพย์สนของตนได้อก
ิ
ั
ิ
ต่อไป เพราะทรพย์สนทั้งหมดได้ตกเปนของทายาทไปแล้ว อย่างไรก็ตามการท าพินัยกรรมนั้น
ิ
ั
็
แม้ว่าจะกระท าในช่วงเวลาทผู้ท ายังมชวิตอยู่ก็จรง แต่ก็ก าหนดให้มผลหลังจากผู้ท าได้เสยชวิตแล้ว
ี
ี
ิ
ี
ี่
ี
ี
ึ
ิ
ิ
ี
ี
ิ
ิ
ื
จงเหมอนกับการท านตกรรม หลังจากผู้ท าได้เสยชวิตไปแล้ว แต่กฎหมายอสลามได้เปดโอกาสให้
เจ้าของทรพย์สนมโอกาสก าหนดการเผื่อตายด้วยการให้เขาสามารถกระท าบางอย่างโดยหวังผลบญ
ิ
ุ
ั
ี
ุ
ี
ุ
ื
ื
ี่
ุ
หรอเพื่อตอบแทนบคคลทเคยมบญคณต่อเขา หรอแม้แต่เพื่อหวังให้ความช่วยเหลอเพื่อนพ้องหรอ
ื
ื
ิ
ั
ิ
ญาตมตรสหายบางคนซงไม่ใช่ทายาทโดยธรรมชอบของเขา ขณะเดยวกันหากเขาได้ยกทรพย์ให้ใน
่
ึ
ี
ิ
ี
ขณะทยังมชวิตอยู่ก็กลัวว่าจะท าให้มผลกระทบต่อฐานะของตัวเองได้ กฎหมายอสลามจงเปด
ิ
ึ
ี
ี
ี่
ื่
ี
ี
ิ
โอกาสให้ท านตกรรมโดยให้มผลเมอได้เสยชวิตไปแล้ว(อสมาแอ อาล, ม.ป.ป.: 95)
ิ
ิ
ี
ี
ื
ึ
็
ื่
การพินัยกรรมจงเปนเรองทไม่สามารถแยกออกจากกฎหมายอสลาม มันคอค าสั่ง
ิ
ี่
ี
ั
ี
ี
ิ
เสยและความต้องการของผู้ท าพินัยกรรมเกี่ยวกับทรพย์สนของเขาภายหลังจากเสยชวิต(Sajuti
ิ
ั
่
ึ
้
้
ี
ิ
ิ
ู
็
Thalib, 2000: 104) ซงสามารถท านตกรรมได้ไม่ว่าทรพย์สนนั้นจะเปนทรแน่นอนหรอไม่ร มอยู่
ี่
ู
ื
ึ
่
ี
แล้วหรอยังไม่มก็ตาม แต่ต้องไม่เกินหนงในสามจากทรพย์สนในกองมรดก หากเกินไปกว่าจ านวน
ื
ั
ิ
ั
ื
ี่
ิ
ี
น้จะต้องได้รบความยินยอมจากทายาททมสทธ์ ิรบมรดกทั้งหมด หากทายาทไม่ยินยอมถอว่าการท า
ี
ั
ึ
พินัยกรรมนั้นเปนโมฆะ (จารก เซนเจรญ, มหัมมัด พายิบ, 2/37) ทั้งน้สมควรทจะมการบันทก
ี
็
็
ึ
ิ
ุ
ี
ี่
็
ั
ี
พินัยกรรมเปนลายลักษณอักษรและจะต้องมพยานรบรสองคน (มนร มหะหมัด, 2551: 79)
ู
ุ
้
ู
์
ี
2.2.1 ความหมายของพินยกรรมในอิสลาม
ั
ิ
ี
์
ึ
ื
พินัยกรรม (ةيصولا) หมายถง ส่งทได้สั่งเสยมัน และพหพจนของมัน คอ วะศอยา
ี่
ุ
(يااصو) (Ahmad al–Zayat, Hamid Abdul al–Qadir, Ibrahim Mustofa, Muhammad al–Najar, 2010: