Page 216 - 054
P. 216
195
ุ
ิ
ิ
ู
ู
ื
ื
เมองจังหวัดสตล นักวิชาการอสลามในอ าเภอเมองจังหวัดสตล ตลอดจนมสลมและมสลมะฮใน
ฺ
ุ
ิ
อ าเภอเมองจังหวัดสตล
ื
ู
4.2 น าแบบสอบถามและแบบสัมภาษณส่งไปให้กล่มตัวอย่างจ านวน 130 ชด
์
ุ
ุ
การวิเคราะหขอมูล
้
์
ู
์
การวิเคราะหข้อมลใช้โปรแกรมส าเรจรป สถตทใช้มความถรอยละ และค่าเฉลย
ี
ี่
ี่
ี่
้
ิ
ู
็
ิ
ู
ิ
ี่
และค่าเบยงเบนมาตรฐาน การน าเสนอข้อมลจะน าเสนอเชงพรรณนา
ี่
เพื่อตอบค าถามวิจัยทก าหนดไว้
สรุปผลการวิจัย
ื่
ึ
ิ
ิ
ิ
ุ
ิ
ึ
ิ
การศกษาวิจัยเรอง “พินัยกรรมในอสลาม ศกษาการปฏบัตจรงของมสลมในอ าเภอ
ิ
เมองจังหวัดสตล” ผู้วิจัยได้สรปผลตามวัตถประสงค์ของการวิจัย อภปรายผลและข้อเสนอแนะ
ื
ู
ุ
ุ
ตามล าดับดังต่อไปน้ ี
ั
1 ผลการวิจยเอกสาร
จากการทบทวนเอกสารและงานวิจัยทเกี่ยวข้อง ผู้วิจัยพบว่า การท าพินัยกรรมใน
ี่
ิ
็
ิ
็
อสลามนั้นเปนส่งทศาสนาอนญาตให้กระท าได้ เพื่อเปนการเปดโอกาสให้แก่บคคลทมความ
ิ
ี
ี่
ี่
ุ
ุ
ื
ิ
ั
ิ
ั
ึ
ต้องการจะมอบผลประโยชน์หรอทรพย์สนให้แก่ผู้ทมใช่ทายาททมสทธรบมรดก รวมถงสาธารณะ
ิ
ี
ิ
ี่
ี่
็
ุ
ิ
ี่
กุศลต่างๆทไม่ขัดกับบทบัญญัตของอสลาม ดังนั้นผู้วิจัยขอสรปประเดนส าคัญเกี่ยวกับพินัยกรรม
ิ
ิ
ในอสลามดังต่อไปน้ ี
ื
็
1.การท าพินัยกรรมในอสลามนั้นไม่ว่าจะเปนค าพูดหรอเขยนเปนลายลักษณอักษร
็
์
ี
ิ
ั
ี่
็
ี
ู
้
ี่
ี่
จะต้องมพยานรเหนสองคนจากผู้ทเทยงธรรม ดังท อัลลอฮฺ ทรงตรสว่า
ِ
ِ
ِ
تومْ لا مكَ دحَأ رضح اذإ مُ كني ب ةداهش اونمآ نيذ َّ لا اهُّ يَأ يَ ﴿
َ
ُ
ُ
َ
ُ َْ ُ َ َ َ
َ َ
ْ َْ َ َ َ َُ َ
ِ
ِ
ِ ِ
ِ ٍ
﴾ مُ كنم لدع اوذ نانْ ثا ةَّ يصوْ لا ينح
َ َ
ْ
َ َ
ْ َ َ
ْ
(٠١١ ةيآ نم ءزج : ةدئالما)