Page 240 - 049
P. 240
226
้
ั
ิ
้
ิ
ิ
ั
ค าอธบายรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการบรหารความขดแยง สาหรบผูบรหาร
้
ั
ั
ึ
ั
สถานศกษา สงกัดสานกงานคณะกรรมการการศกษาขันพื้นฐาน ในจงหวัดชายแดนภาคใต
้
ึ
้
ขันที่ 4 การทบทวน
็
ี่
่
ิ
ิ
ุ
็
ึ
ื
ี
เปนขั้นการสรปเน้อหา กิจกรรมทั้งหมดทปฏบัตด้วยตนเอง ซงเปนการเรยนร ้ ู
ื
้
ู
ิ
้
แบบสรางความรด้วยตนเองผ่านการลงมอท าและคด (Learning by Doing and Thinking)
วัตถุประสงค ์
ู
ี
ิ
้
ู
1. เพื่อให้การเรยนรเกิดจากภายใน และสามารถเพิ่มพูนความรเพิ่มเตมจาก
้
ื่
์
ประสบการณของคนอนได้
ื่
์
็
2. เพื่อให้เกิดเปนทักษะและประสบการณใหม่ และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนองได้
กระบวนการ
ิ
1. พูดคยแลกเปลยนเน้อหา ความคดเหนและกิจกรรมทได้ศกษา ปฏบัตร่วมกัน
ื
ี่
็
ี่
ิ
ิ
ึ
ุ
้
พรอมทั้งซักถาม ให้ค าปรกษา
ึ
ิ
ิ
์
ี
ี่
้
2. แลกเปลยนประสบการณจากการอบรมและการปฏบัตงาน พรอมทั้งมการสอนงาน
็
ึ
ั
์
ั
(Coaching) จากผู้บรหารสถานศกษาทมประสบการณ และรบฟงความคดเหน ข้อตชมของผู้เข้ารบ
ิ
ี
ิ
ี่
ั
ิ
การพัฒนา
์
ผลลัพธ
1. เกิดการคดอย่างใคร่ครวญและเกิดการเรยนรจากภายใน
ู
ิ
้
ี
ึ
้
ิ
ี่
ี่
์
ิ
ิ
ิ
ิ
2. สรางประสบการณใหม่ทปฏบัตได้จรง ผ่านการฝกปฏบัตจากกิจกรรมทหลากหลาย
้
ู
ุ
ิ
2. ท าความเข้าใจกับส่งต่างๆ จนเกิดคณลักษณะความตระหนักรในตนเอง
ี่
ี่
3. เกิดการเปลยนแปลงขั้นพื้นฐานในตัวเอง (Transformative Learning) ทส่งผลให้ม ี
ั
ี
ิ
ิ
การด าเนนชวิตอย่างมสต มปญญา มความรก ความเมตตาต่อสรรพส่ง
ี
ั
ี
ิ
ี
ั
4. ประพฤต ปฏบัตตนทดในสังคมสามารถน ามาความร และแนวคดมาใช้แก้ปญหา
ี่
ิ
ิ
้
ู
ี
ิ
ิ
ี
ในชวิตประจ าวันและในองค์กรได้