Page 109 - 047
P. 109
88
้
ุ
ิ
3.3.3 สรางแบบสอบถามตามกรอบแนวคดและวัตถประสงค์การวัดตาม
ิ
์
ิ
ั
นยามศัพท์ โดยแบบสอบถามดัดแปลงค าถามมาจากวิทยานพนธของ วรรณรตน์ ทายิดา (2551: 156-
167) และ อับดนหาด อะละมาด (2555: 176-180) ได้ค่าความเชอมั่นทั้งฉบับ 0.60 - 1.00 มลักษณะ
ื่
ี
ี
็
เปนแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ
ึ
3.3.4 เสนอร่างแบบสอบถามต่ออาจารย์ทปรกษาตรวจสอบ และน า
ี่
ั
ข้อเสนอแนะมาปรบปรงแก้ไข
ุ
ื่
ิ
3.3.5 เสนอเครองมอต่อผู้ทรงคณวุฒเพื่อตรวจสอบ ความตรงเชงเน้อหา
ื
ื
ิ
ุ
(Content validity) โดยให้ผู้เชยวชาญ จ านวน 3 คน ตรวจสอบ แล้วน ามาหาค่าดัชนความสอดคล้อง
ี
ี่
ุ
ิ
ระหว่างข้อค าถามกับวัตถประสงค์ตามนยามศัพท์ (Index of Item Objective Congruence: IOC)
ี
ุ
์
เลอกข้อค าถามทมค่า IOC มากกว่าหรอเท่ากับ 0.66 ผลการวิเคราะหทกข้อมค่า IOC เท่ากับ 0.66 –
ี่
ี
ื
ื
ึ
ิ
ี
ื่
1.00 ซงแสดงว่าเครองมอมความเทยงตรงเชงเน้อหา
ื
ี่
่
ื
ู
3.3.6 น าแบบสอบถามไปทดลองใช้ (Try Out) กับครผู้สอนในโรงเรยน
ี
ิ
ั
ี่
เอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน จ านวน 30 คนทไม่ใช้
ึ
ี
กล่มตัวอย่าง แล้วน ามาวิเคราะหเพื่อหาค่าความเชอมั่น (Reliability) โดยใช้สตรสัมประสทธ์ ิแอลฟา
ุ
ื่
์
ู
ิ
ึ
(Alpha Coefficient) ตามวิธการของครอนบาค (Cronbach, 1970 อ้างถงใน ภัทราพร เกษสังข์, 2549
ี
ึ
่
ุ
์
ื่
: 138-139) ผลการวิเคราะหค่าความเชอมั่นของแบบสอบถามทั้งชด เท่ากับ .977 ซงแสดงว่าใช้ได้
3.3.7 ปรบปรงแก้ไข จัดพิมพ์แบบสอบถามฉบับสมบูรณ แล้วน าไปเก็บ
ั
์
ุ
ข้อมูลกับกล่มตัวอย่างต่อไป
ุ
ขั้นตอนการสรางเครองมอทกล่าวมาข้างต้น ผู้วิจัยได้ก าหนดขั้นตอนใน
ี่
ื่
้
ื
็
ื
การสรางเครองมอเปนแผนภูม ดังภาพประกอบท 2 ดังน้ ี
้
ี่
ิ
ื่