Page 25 - 025
P. 25
25
ี
แน่นอนที่สุดว่า การลงทุนในการจัดการเรยนการสอนย่อมต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านอาคาร
ุ
ี
ู
สถานที่ อปกรณ์การเรยนการสอน ทั้งในภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ด้านบุคลากร โดยเฉพาะครผู้สอน
ี
ู้
ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีความรความสามารถสูง ทั้งนี้เพื่อให้โรงเรยนสามารถดึงดูดนักเรยนเข้ามาศึกษา
ี
ได้มากขึ้น และสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินคุณภาพการศึกษา ซึ่งถือเป็นมาตรฐานในการจัด
การศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการได้ก าหนดขึ้นมาใช้กับการจัดการศึกษาทุกระดับ
ิ
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า การบรหารจัดการศึกษาโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามจึง
ี
ิ
ิ
ต้องมีการแข่งขันกันสูงมาก เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าศึกษาให้มากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยกลยุทธ์การบรหาร
จัดการสมัยใหม่ ต้องค านึงถึงทั้งลูกค้าภายใน ลูกค้าภายนอก เพื่อพัฒนาคุณภาพการด าเนินงานให้
ิ
อยู่ในสภาพที่สามารถแข่งขันได้ และอยู่รอด โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดสตูล ได้
่
พยายามรวมมือกันจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับสังคมที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรยน
ี
้
ั
ิ
ิ
เอกชนสอนศาสนาอสลาม ซึ่งมีความพรอมทางด้านทรพยากร มีความคล่องตัวและมีอสระในการ
บรหารจัดการได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น และน าเอาวิวัฒนาการทางด้านวิชาการ วิทยาศาสตรและ
์
ิ
ี
ิ
ี
เทคโนโลยีเข้ามาใช้เป็นสื่อการเรยนการสอน เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรยน รวมทั้งได้ส่งเสรม
สนับสนุนการจัดการศึกษามากขึ้น
ที่ผ่านมาโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดสตูลทุกแห่งมีการด าเนินงาน
ี
ิ
ี
วางแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาระบบการจัดการ โดยแต่ละโรงเรยนต่างมีเป้าหมาย
เดียวกันคือ การแข่งขันเพื่อให้ได้ผู้เรียนเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนของตนเองให้มากที่สุด
จากสภาพปัญหา ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับการด าเนินงานวางแผนกลยุทธ์ของ
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดสตูล ที่ท าให้โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม
ิ
ี
ิ
ี
ประสบความส าเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการ
ของสังคม เพื่อพัฒนาการบริหารของโรงเรียน และน าผลการศึกษาไปเป็นแนวทางในการพัฒนาการ
ิ
วางแผนกลยุทธ์ในการพัฒนาการบรหารโรงเรยน ใช้เป็นตัวชี้วัดสู่แนวทางการปฏิบัติของโรงเรยน
ี
ี
ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
ี
1. เพื่อศึกษาสภาพการด าเนินงานวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม
ิ
ในจังหวัดสตูล