Page 220 - 024
P. 220
220
ั
ในอีกมุมหนึ่ง เสียงสะท้อนของภรรยาคนที่หนึ่งที่กลั่นมาจากประสบการณ์อนล้ าค่า
ของตนเองได้สะท้อนว่า
“…เราไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเหนือกว่าใคร คนที่เหนือกว่าคือคนที่มีตักวามากกว่า
ั
เท่านั้น บางครงเราจะมองเพียงแต่ภายนอกไม่ได้ เพราะส่วนลึกๆ อลลอฮฺเท่านั้นที่รู้
ั้
ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายคนมักจะบอกว่า มันอยู่ที่คนกลาง คือ อยู่ที่คนที่เป็นสามี แต่ส าหรบ
ั
มามาเท่าที่สัมผัสมาด้วยตนเอง คิดว่าไม่ใช่ ไม่เสมอไป ประเด็นหลักอยู่ที่ตัวภรรยา
มากๆ ด้วย ไม่ใช่ภรรยาคนหนึ่งคนใด ทุกคนส าคัญเท่ากันหมด มันอยู่ที่บรรดาภรรยา
ไม่ได้อยู่ที่สามี” (คุณฟาอิซะฮฺ, 11 ธันวาคม 2555)
การยอมจ านนต่อบทบัญญัติของพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง ขอเพียงเป็นก าหนดของพระเจ้า
ั
้
พวกนางพรอมที่จะน้อมรบ แม้เป็นการยินยอมที่ต้องเจ็บปวดก็ตาม สัมผัสได้จากรอยยิ้มและแววตา
ของผู้ให้ข้อมูลที่แฝงไปด้วยความเศร้า และความหวังว่าพระองค์จะตอบแทนความเสียสละด้วยสิ่งที่ดี
ยิ่งกว่า ผู้ให้สัมภาษณ์ได้สะท้อนว่า
“ตอนนั้นเขาถามว่า ‘คุณคิดยังไงกับเรื่องการมีภรรยาสี่คน’ แล้วมามาก็ตอบว่า ‘ฉันไม่
ั
เคยปฏิเสธโองการของอัลลอฮฺแม้แต่เพียงอายัตเดียว..ฉันยอมรบทั้งหมด การที่คุณจะมี
ภรรยาสี่คนฉันก็ไม่ปฏิเสธ และก็ไม่บังอาจที่จะปฏิเสธด้วย ถ้าคุณมีความสามารถที่จะ
ให้ความยุติธรรมคุณก็แต่งได้’..” (คุณฟาอิซะฮฺ, 11 ธันวาคม 2555 )
ั
สามีต้องพยายามปฏิบัติท าหน้าที่ต่อครอบครวอย่างสมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้ภรรยาคนที่
ุ่
หนึ่งมีความเชื่อมั่นและอนใจว่าความรกความเอาใจใส่ที่เขาเคยได้รบจากสามียังคงเหมือนเดิม ดังที่
ั
ั
ภรรยาคนที่หนึ่งท่านหนึ่งได้สะท้อนว่า
“การที่เขาไปมีเมียอีกคน ความรับผิดชอบของเขาต่อเราต่อลูกก็ยังเหมือนเดิม เขาไม่ได้
ื่
้
แย่อย่างที่เรากังวล พอเขาไปบ้านนู้นก็เป็นเรองของเขา เราจะไปเศราท าไม เราต้องท า
ทุกอย่างให้ตัวเองอยู่ในสภาวะนี้ได้อย่างสบายใจที่สุด เมื่อสามีกลับมาหาเราเขาก็เป็น
สามีเรา เราต้องปรนนิบัติให้ดีที่สุด เมื่อสามีไปบ้านเขาก็เป็นสามีของเขา เราก็ไม่ต้อง
ไปโทรตามหรือก่อกวนให้เขาไม่สบายใจ” (คุณมาซือนะ, 10 มกราคม 2555)
“คนแรกเขาก็โอเค เพราะเขารู้ว่าเขาให้ลูกไม่ได้และเขาก็อายุมากแล้ว ก่อนแต่งกับคน
แรกผมก็คุยเป็นเงื่อนไขไว้ว่า “ผมอายุยังน้อยนะ อาจจะมีภรรยาอกคน..” เขาก็โอเค ก็
ี