Page 76 - 017
P. 76
76
ทํานเราะสูล และเศาะหาบียะฮฺทํานอื่นๆ เชํน การมีสํวนรํวมในการเผยแผํความรู๎การบริจาค
ทรัพย๑สิน การชํวยเหลือตามขอบเขตในสมรภูมิรบ ตามที่ได๎กลําวมาในบทที่ 2 เป็นต๎นได๎ผู๎ถาม
ความเห็นของชัยค๑บินบาซเกี่ยวกับการดะอฺวะฮฺของบรรดาสตร ี ซึ่งทํานได๎ตอบวํา‚สตรีก็เหมือน
บุรุษ ถูกกําหนดให๎มีหน๎าที่เรียกร๎องผู๎คนสูํอัลลอฮฺ และสํงเสริมในสิ่งที่ดีและสั่งห๎ามปรามในสิ่ง
ที่ชั่ว ทั้งนี้เพราะเนื้อหาในกุรอานและ สุนนะฮฺได๎บํงบอกไว๎ และคําพูดของผู๎รู๎ทั้งหลายก็กลําวไว๎
อยํางชัดเจน ดังนั้นสตรีจําเป็นที่จะต๎องเรียกร๎องผู๎คนสูํอัลลอฮฺ และเรียกร๎องในสิ่งที่ดีและสั่ง
ห๎ามในสิ่งชั่วร๎าย โดยการปฏิบัติตามแนวทางจากชารีอะฮฺ เหมือนกับที่บุรุษต๎องปฏิบัติ‛ (อิบนุตัยมิ
ยะฮฺและคณะ, 2555: 26) Ah ฺmad al-‘Atțawiy 1992: 44 กลําววํา ‚เป็นสิ่งวาญิบในการดะอฺวะฮฺ
ี
สูํอัลลอฮฺ ซึ่งคําสั่งดังกลําว เป็นการสั่งใช๎ทั่วไปแกํมุสลิมทุกคนทั้งบุรุษและสตร แตํทั้งนี้การ
ดะอฺวะฮฺ ของบุรุษและสตร ประกอบด๎วยด๎านตํางๆ และสนามการดะอฺวะฮฺที่แตกตํางตามความ
ี
เหมาะสมของสังคมนั้นๆ สิ่งที่เหมาะสมสําหรับบุรุษอาจไมํเหมาะสมสําหรับสตร ี และสิ่งที่
ี
เหมาะสมสําหรับสตร อาจไมํเหมาะสมสําหรับบุรุษก็เป็นได๎‛
2.3 รากฐานในการดะอฺวะฮฺ
Muh ฺammad Abū al-Fath ฺ (1995: 120) กลําววํา ‚รากฐานในการดะอฺวะฮฺ
ครอบคลุมสองประการ คือ หลักฐานและแหลํงที่มาในการดะอฺวะฮฺ และองค๑ประกอบใน
การดะอฺวะฮฺ‛
3.3.1 หลักฐานและแหลํงที่มาในการดะอฺวะฮฺ ได๎แกํ
3.3.1.1 อัลกุรอาน
3.3.1.2 อัสสุนนะฮฺ
3.3.1.3 ชีวประวัติทํานนบี
49
3.3.1.4 ชีวประวัติของคุละฟาอ๑ทั้งสี่
3.3.1.5 อุละมาอ๑และนักดาอีย๑ที่ดํารงอยูํบทแหลํงที่มาข๎างต๎น
สําหรับแหลํงที่มาและสื่อในการดะอฺวะฮฺนั้น ‘Abd al-Karīm Zaidān (2009: 395-
395) กลําววํา แหลํงที่มาของแนวทางและสื่อในการดะอฺวะฮฺ ได๎แกํ อัลกุรอาน อัสสุนนะฮฺ
49 ได๎แกํ ทํานอบูบักรฺ ทํานอุมัรฺ ทํานอุษมาน และทํานอะลี