Page 250 - 017
P. 250
250
ฮิจญ๑เราะฮไปยังมะดีนะฮฺ บรรดาภรรยาของทํานนบี ก็ได๎มีสํวนรํวมในการดะอฺวะฮฺ ไมํวําจะ
เป็นในเรื่องของการถํายทอดวิทยาการอิสลาม การเป็นสื่อกลางในการเรียนรู๎ระหวํางนบี
และเศาะหาบะฮฺ การดะอฺวะฮฺด๎วยกับแบบอยํางที่ดีงาม การสั่งใช๎สูํความดีและห๎ามปรามสิ่งชั่วร๎าย
การตักเตือนที่ดี เป็นต๎น ดังที่ Ibrāhīm al-Jamal (n.d.: 60) กลําววํา ‚เหลําเรือนของทํานนบี เป็น
ศูนย๑กลางสําหรับการดะอฺวะฮฺ ที่ผู๎คนสามารถไป ดื่มด่ํา (รับเอา) บทบัญญัติตํางๆ ที่เกิดประโยชน๑
ไมํวําจะเป็นเรื่องของศาสนาและดุนยา โดยที่พวกเขาจะไตํถามถึงการกระทําและคําพูดของทําน
เราะสูล รวมถึงสิ่งที่พวกเขาไมํได๎รู๎เห็นและทําน เราะสูล ไมํได๎เป็นใจ (คัดค๎าน) และพวก
นาง (อุมมะฮาตอัลมุอ๑มินีน) จะคอยตอบคําถาม สั่งสอน และเผยแพรํคําพูดและการกระทําของทําน‛
ซึ่งการดะอฺวะฮฺดังกลําวของอุมมะฮาตอัลมุอ๑มินีน ตลอดจนเศาะหาบียะฮฺทํานอื่นๆ ทั้งหมดล๎วน
ดําเนินการโดยปัจเจกบุคคล (ฟัรดิยะฮฺ) โดยไมํได๎รวมตัวภายใต๎ชื่อหรือมีโครงสร๎างอะไรชัดเจน
หากแตํดําเนินตามบริบทสังคมในสมัยนั้นที่อาจไมํมีความจําเป็นในการจัดตั้งกลุํม บรรดาอุมมะ
ฮาตอัลมุอ๑มินีนเป็นสตรีที่มีความประเสริฐ เป็นต๎นแบบในการดะอฺวะฮฺและต๎นแบบด๎านอื่นๆ ที่ดี
งามยิ่งแกํมุสลิมะฮฺทุกยุคสมัย จําเป็นที่มุสลิมะฮฺนักดาอิยะฮฺจะต๎องศึกษาเรียนรู๎ วิถีชีวิตของพวกนาง
ดังผลการศึกษาของ Ramadฺān Ish ฺāq al-Zaiyān (2005: บทคัดยํอ) กลําววํา ‚บรรดาอุมมะฮาตอัล
มุอ๑มินีนได๎ดําเนินการดะอฺวะฮฺเคียงคูํทํานนบี เพื่อเผยแผํดีนอันยิ่งใหญํ และในวิถีชีวิตของพวก
นางนั้นมีตัวอยํางและต๎นแบบที่ดีแกํสตรีมุสลิมในการดะอฺวะฮฺสูํศาสนาของอัลลอฮฺ อยํางแข็ง
ขัน‛ สอดคล๎องกับผลการศึกษาของ Haifa’a Hishām Sulaimān (2007: บทคัดยํอ) ที่วํา ‚สตรีในสมัย
ของทํานนบี ถือเป็นต๎นแบบสําหรับสตรีที่สนใจในการดะอฺวะฮฺ ‛ สําหรับการดะอฺวะฮฺในสังคม
ปัจจุบันนั้นมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น เชํน การรวมตัวกันจัดตั้งสมาคม ชมรม กลุํมตํางๆ ซึ่ง การ
รวมตัวกันเพื่อทํางานเรียกร๎องสูํอัลลอฮฺ เป็นรูปแบบหนึ่งที่มีความจําเป็นในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะ
การรวมตัวกันเป็นกลุํมองค๑กรเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะทําให๎การดะอฺวะฮฺมีความเข๎มแข็ง มี
ประสิทธิภาพ และมีการทํางานที่ตํอเนื่อง ดังที่ผู๎ให๎ข๎อมูล (สุวรรณา, 2556) กลําววํา ‚การรวมตัว
เป็นองค๑กรนั้นเป็นเครื่องมือที่จะทําให๎การดะอฺวะฮฺของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น แล๎วก็สามารถ
ที่จะลงสูํกลุํมเป้าหมายได๎กว๎างขวางมากขึ้น ชํวยให๎ดะอฺวะฮฺได๎รอบด๎านขึ้น แล๎วก็เป็นการชํวยเหลือ
กลุํมเป้าหมายได๎หลายกลุํมมากขึ้น ‛ และผู๎ให๎ข๎อมูลอีกทําน (กุศลิน, 2556) กลําววํา ‚…ถ๎ามีกลุํม
องค๑กร ในเรื่องของการดําเนินกิจกรรม มันก็จะมีความตํอเนื่อง เพราะวําองค๑กรก็จะชัดเจน แล๎วก็ถ๎า