Page 21 - 013
P. 21
21
บทที่ 1
บทนา
ั
็
ความเปนมาของปญหาและปญหา
ั
ิ
ี
็
่
ึ
ี
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามเปนโรงเรยนเอกชนประเภทหนง สังกัดของ
ี
โรงเรยนนโยบายพิเศษ ตามมาตรา 15(1) และมาตรา 15(2) แห่งพระราชบัญญัตโรงเรยนเอกชน
ี
ิ
ี่
ี่
ึ
่
ี
ซงแปรสภาพมาจาก “ปอเนาะ” (สถานทท าการสอนศาสนาโดยโต๊ะคร) มมากในพื้นท 3 จังหวัด
ู
ิ
ั
ี
ี
ชายแดนภาคใต้ได้แก่ นราธวาส ปตตาน และยะลา ในปจจบันได้จัดการเรยนการสอนแบบชั้น
ั
ุ
ิ
เรยน ทั้งวิชาศาสนาและวิชาสามัญ บคลากรในโรงเรยนประกอบด้วย ผู้บรหารโรงเรยนได้แก่
ี
ี
ี
ุ
ี่
ุ
ผู้รบใบอนญาต ผู้จัดการ ครใหญ่ ข้าราชการครทส่งไปช่วยสอนและครทโรงเรยนจ้างสอนวิชา
ั
ี่
ู
ู
ู
ี
ศาสนาและวิชาสามัญ
ื่
็
ุ
ี่
ุ
ี่
็
ั
ั
็
บคลากรเปนปจจัยทส าคัญทสด เพราะเปนผู้ใช้ทรพยากรอน ๆ ให้เปนประโยชน์
ดังทเมกกินสัน (Megginson, 1968 : 45,อ้างองใน อาภัสสร ไชยค. 2542 :1) ได้กล่าวไว้ว่า
ี
ิ
ุ
ี่
ิ
ุ
“มนษย์เปนปจจัยทส าคัญทสดในการบรหาร และมนษย์เปนทรพยากรทางเศรษฐกิจทมทั้งคณค่า
ั
็
ุ
ั
ี
ี่
ี่
ุ
ุ
็
ี่
ิ
ิ
และเกียรตภูม”
ี
แต่เนองจากสภาพการบรหารในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามใน 3 จังหวัด
ิ
ื่
ิ
ั
ื่
ี
ชายแดนภาคใต้มปญหาและอปสรรคหลายประการอาจเนองมาจากสภาพท้องถ่นและขนาดของ
ุ
ิ
ี
ี่
ุ
โรงเรยนมความแตกต่างกัน เช่นโรงเรยนทตั้งอยู่ในเขตชมชน เขตเมอง เขตสขาภบาล หรอเขต
ี
ี
ุ
ิ
ื
ื
ื
ี
ื
ี
เทศบาลมการคมนาคมสะดวกกว่าโรงเรยนทอยู่ในเขตชานเมองหรอชนบทห่างไกล ด้านขนาดของ
ี่
ั
ี
ุ
โรงเรยน โรงเรยนขนาดใหญ่มบคคลมากกว่าย่อมท าให้เกิดปญหาในการบรหารบคลากรได้มาก
ี
ี
ิ
ุ
ี
ึ
และยังมสภาพปญหาต่าง ๆ อกหลายประการ (ส านักงานคณะกรรมการการศกษาเอกชน, 2543:18 )
ั
ี
ึ
ซงพอสรปได้ดังน้ ี
ุ
่
ุ
ั
ิ
ิ
ี
1. ผู้บรหารโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม ได้แก่ ผู้รบใบอนญาต ผู้จัดการ
และครใหญ่ขาดวิสัยทัศนในการจัดการศกษาและขาดความรทางการบรหารการศกษา เนองจากม ี
ึ
์
ู
ื่
ึ
ู
้
ิ
่
ความรวิชาสามัญศกษาต า ขาดความกระตอรอรนในการพัฒนาตนเอง ฯลฯ
ึ
้
ู
้
ื
ื
2. ขาดครผู้ช านาญการในวิชาต่าง ๆ
ู
้
3. ครบางส่วนไม่มความร ความเข้าใจในเทคนคการสอนใหม่ ๆ ขาดความรด้าน
ู
ู
้
ู
ี
ิ
ึ
ิ
ู
้
ึ
จตวิทยาการศกษา ขาดความรด้านการวัดและประเมนผลการศกษา ฯลฯ
ิ