Page 33 - 011
P. 33
9
บทที่ 2
แนวคิดทฤษฏีและงานวิจัยที่เกี่ยวของ
้
ื่
ิ
ื่
การวจัยเรอง “การแสวงหาและการใช้สารสนเทศเพอความปลอดภัยและความมั่นคงส่วน
ุ
ึ
ึ
ึ
ิ
ุ
บคคลของครและบคลากรทางการศกษา: กรณศกษาอําเภอบาเจาะจังหวัดนราธวาส” ผู้วิจัยได้ศกษา
ี
ู
ี
ี่
ิ
ื
ี่
์
แนวคดทฤษฏและผลงานวิจัยทเกี่ยวข้องกับสถานการณความไม่สงบในพ้นททศกษา รวมทั้งด้าน
ึ
ี่
ื่
ิ
พฤตกรรมการแสวงหา และการใช้สารสนเทศเพอการแก้ปัญหาและเพื่อการตัดสินใจในบริบทที่
เกี่ยวข้องกับหัวข้อวิจัย ดังน้ ี
์
สถานการณความไมสงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใตและผลกระทบ
่
้
ี
ิ
ี่
ี่
สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เปนพื้นททมลักษณะทางสังคมทแตกต่างจากภูมภาคอนของ
็
ี่
ื่
็
้
ื
ประเทศ พลเมองส่วนใหญ่คอรอยละ 97.3 หรอ 1.4 ล้านคนนับถอศาสนาอสลามใช้ภาษามลายูถ่นเปน
ื
ื
ิ
ื
ิ
ี
ภาษาในชวตประจําวัน โดยมประชาชนชาวพุทธอยู่เพยงรอยละ 20.1 กระจายอยู่ทั่วไปทั้งในเขตเมอง
ี
ื
้
ี
ิ
็
์
ู
ี
และชนบท มอัตลักษณทแตกต่างจากความเปนไทยกระแสหลัก มประวัตศาสตรและความภมใจใน
ิ
ิ
ี่
์
ี
ิ
มาตภูมของตนเองมายาวนาน ความแตกต่างดังกล่าวผนวกกับการดําเนนนโยบายทผิดพลาดของรฐใน
ี่
ิ
ุ
ั
ั
ี
บางยุคสมัย ก่อให้เกิดกระแสความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรฐมาโดยตลอด โดยมการต่อต้าน
ู
อํานาจรฐในรปแบบต่างๆในแต่ละยุคสมัย จึงอาจกล่าวได้ว่า ความรุนแรงในพื้นที่ดํารงอยู่มาโดยตลอด
ั
นับตั้งแต่การผนวกพ้นทน้เข้ามาเปนส่วนหนงของสยามเมอประมาณหนงศตวรรษมาแล้ว
ื่
็
ึ
ึ
่
ี
่
ื
ี่
ั
ุ
อย่างไรก็ตามความรนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับเปนทสนใจของประชาชนอกคร้ง
ี
ี่
็
ุ
ื่
เมอเกิดเหตการณคนรายไม่ทราบจํานวนบุกเข้าไปในกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราช
้
์
ื
ี
์
ิ
้
ี่
นครนทรบ้านปเหล็ง อําเภอเจาะไอรอง จังหวัดนราธวาส ในวันท 4 มกราคม 2547 โดยปล้นปนไป 413
ิ
ี่
กระบอก และสังหารทหารทั้งหมด 4 นาย ในเวลาไล่เลยกันมการลอบวางเพลงอาคารโรงเรยนและทพัก
ี
ี่
ิ
ี
ิ
สายตรวจทั่วจังหวัดนราธวาสทั้งหมด 22 จด เหตุการณ์นี้มีนัยสําคัญที่แตกต่างจากการก่อการในอดีต
ุ
ิ
อย่างส้นเชง กล่าวคอ ทผ่านมากล่มคนรายมักเน้นการโจมตสัญลักษณทางอํานาจรฐทอ่อนแอทสด เช่น
ิ
ุ
ี่
ั
ุ
้
์
ี
ี่
ี่
ื
ี
ื
ุ
โรงเรยนหรออาคารสถานทราชการต่างๆดังนั้น การบกค่ายทหาร ปล้นปืน และฆ่าทหารในครั้งนี้เท่ากับ
ี่