Page 245 - 001
P. 245
234
นอกจากนี้ สถาปัตยกรรมอิสลามยังให้ความสำคัญกับระบบสัดส่วน (Proportion) ที่
ใช้หลักคณิตศาสตร์อย่างเข้มงวด มีการใช้เส้นตรงและเส้นโค้งชัดเจนแน่นอน การตกแต่งทั้ง
ภายในและภายนอกนิยมตกแต่งด้วยลายพรรณพฤกษา อักษรศิลป์ และการฝังหินสี รวมไป
46
ถึงการปั้นเป็นแบบนูนขึ้นมา ยิ่งกว่านั้นการที่คัมภีร์ในศาสนาอิสลามมีบัญญัติในเรื่องการ
ห้ามสร้างรูปเคารพบุคคลใดๆ จึงทำให้งานทางด้านประติมากรรมนูนสูงค่อนข้างหยุดชะงัก
ี
เหลือเพยงงานประติมากรรมนูนต่ำที่ทำเป็นลวดลายพรรณพฤกษาหรืออักษรศิลป์เท่านั้น
ส่วนงานจิตรกรรมแม้จะมีการห้ามวาดภาพบุคคลแต่ก็มีการสร้างสรรค์งานออกมาที่เรียกว่า
จุลจิตรกรรม (miniature painting)
ทั้งนี้ งานทางด้านสถาปัตยกรรมอิสลามสามารถแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน
ช่วงแรกเป็นของสมัยสุลต่านแห่งเดลีเริ่มขึ้นในราวพ.ศ. 1749 (ค.ศ. 1206) จนถึงการสิ้นสุด
ของเชอร์ ชาห์แห่งราชวงศ์สุระ (พ.ศ. 2098; ค.ศ. 1545) และช่วงที่สองเริ่มขึ้นในสมัย
ราชวงศ์โมกุล คือพระเจ้าอักบาร์และสิ้นสุดลงในสมัยพระเจ้าโอรังเซบ
สถาปัตยกรรมในช่วงแรกที่แสดงความโดดเด่นคือ กุตับ มินาร์ (Qutub Minar)
ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเดลีราว 18 กิโลเมตร แต่เดิมเป็นหอสูงเพียง 95 ฟุต สร้างขึ้นโดยกษัตริย์
ฮินดู ต่อมาเมื่อมุสลิมเตอร์กได้ยึดครองอินเดีย สุลต่านกุตับ อุดดิน ไอบาค (Qutub ud-din
ื่
ิ่
Aibak) แห่งราชวงศ์ทาส ได้ทำการเพมเติมให้สูงกว่าเดิม โดยมีจุดประสงค์เพอใช้เป็น
ิ่
อนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะของศาสนาอิสลามบนผืนแผ่นดินอินเดีย การสร้างเพมเติมนี้ได้นำ
แบบอย่างรูปแบบสถาปัตยกรรมจากซีเรียและฆัชนีมาใช้ โดยตัวหอสูงทำเป็นร่องกลีบคล้าย
ฟักทองสูงขึ้นไป ภายในโปร่ง มีบันไดขึ้นถึงยอด 379 ขั้น ลักษณะเป็นศิลปกรรมแบบอิสลาม
แต่ใช้ช่างอินเดียเป็นผู้สร้าง สถาปัตยกรรมอิสลามในช่วงแรกนี้จึงแสดงออกให้เห็นถึงความ
ภาคภูมิใจในการถือสิทธิ์เข้าครอบครองอินเดียอย่าง แรงกล้าในฐานะผู้ปกครองต่างชาติผ่าน
การใช้ประโยชน์จากวัสดุและฝีมือช่างชาวอินเดียซึ่งเป็นชาวท้องถิ่น
ในขณะที่สถาปัตยกรรมในยุคที่สองกลับแตกต่างออกไป เพราะแสดงออกถึงการ
ผสมผสานระหว่างรูปแบบอินเดียดั้งเดิมกับรูปแบบใหม่ที่เข้ามา โดยเริ่มขึ้นในสมัยพระเจ้าอัก
บาร์แห่งราชวงศ์โมกุล ทั้งนี้ สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ในสมัยอักบาร์จะสร้างขึ้นที่ฟาเตห์ปุระ สิขรี
ซึ่งเป็นเมืองหลวงใหม่ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของราชวงศ์โมกุลได้รับอิทธิพลมาจาก
47
ื้
สถาปัตยกรรมติมูริด (Timurid) ซึ่งเป็นที่นิยมมากในศิลปะอิสลามบริเวณพนที่เอเชียกลาง
แต่ถึงกระนั้นก็แสดงถึงลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบอินเดียโบราณด้วยเช่นเดียวกัน
46 กำจร สุนพงษ์ศรี, ประวัติศาสตร์ศิลปะอินเดีย, หน้า 307.
47 สถาปัตยกรรมติมูริด (Timurid Architecture) เป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนามาจากลักษณะต่างๆของสถาปัตยกรรมในสมัย
เซลจุค (Seljuq) มีลักษณะเด่นที่การใช้หินสีเทอร์คอยซ์ (Turquoise) หรือหินสีฟ้ามาประดับสิ่งก่อสร้างและมีรูปแบบอาคารที่เป็นทรง
เรขาคณิตอย่างชัดเจน สถาปัตยกรรมติมูริดเริ่มขึ้นในสมัยกษัตริย์ติมูร์แห่งจักรวรรดิติมูร์ในเอเชียกลาง