Page 103 - GL002
P. 103

แรงจูงใจ ทัศนคติและค่ำนิยม



                                            ิ
                                           ี
 ำ
                                                               ั
    “คว�มร้สึกผิด” ก็พบว่ามีบทบาทสาคัญต่อ   ก็ตระหนักถึงปริมาณอาหารท่ท้งเป็นขยะน้อยมาก ดังน้น
 ู
 “ขยะอาหาร” โดยพบว่าประชาชนจานวนมากไม่ชอบการ   ในระยะเริ่มต้นการณรงค์ จึงมุ่งเน้นการสร้างความตระหนัก
 ำ
 ำ
 ้
 ำ
 ึ
 ิ
 ื
 ทาใหเกดขยะอาหาร และเม่อทาให้เกิดขยะอาหารข้น   เน้นถึงประโยชน์ของการลดปริมาณขยะอาหาร และส่งเสริม
 ู
 ู
 ั
 ผ้คนเหล่าน้นจะเกิด “ความร้สึกผิด” ด้านทัศนคติต่อ   การลงมือกระทำาเพื่อลดขยะอาหารในระดับบุคคล ด้วยการ
 ื
                      ื
 ิ
                              ื
                                                 ื
 ิ
                                         ั
 ส่งแวดล้อม ปรากฏว่า ความเช่อมโยงระหว่างส่งแวดล้อม   ส่อสารผ่านส่อต่างๆ รวมท้งเว็บไซต์เพ่อให้ข้อมูล  อย่างไร
 ั
 กับขยะอาหารยังไม่อย่ในจิตใจของผ้คน แม้ว่าท่วโลกต่างให ้  ก็ตาม การสร้างความตระหนักและการให้ข้อมูลข่าวสารยัง
 ู
 ู
                                                              ี
 ความสำาคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมก็ตาม และจากการทบทวน  ไม่เพียงพอต่อการโน้มน้าวให้ประชาชนส่วนใหญ่ปรับเปล่ยน
 ิ
 เอกสารวิจัยต่างๆ ของนักวิชาการด้านพฤติกรรมส่งแวดล้อม  พฤติกรรมและลงมือปฏิบัติ ดังน้นควรพิจารณาถึงวิธีการ
                                             ั
 ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า   อื่นๆ ด้วย  ตัวอย่างเช่น วิธีการการเข้าถึงเป็นรายบุคคล ซึ่ง
                                                 ื
                     พบว่าเป็นวิธีการท่มีประสิทธิภาพ เน่องจากแต่ละบุคคล
                                   ี
                          ำ
                                          ำ
 ่
 ื
    “เป็นท่ชัดเจนว่าประชาชนจานวนมากมิได้เชอมโยง   ต่างมีกาแพงในทางจิตวิทยาทาให้การเข้าถึงจิตใจของแต่ละ
 ำ
 ี
 ำ
 กิจกรรมหรือการกระทาต่างๆ ของตัวเองกับเร่องของการ  คนย่อมแตกต่างกัน ดังนั้น การรณรงค์ “Love Food Hate
 ื
                                    ี
                                ั
 ป้องกันปัญหาขยะ”    Waste” จึงปรบเปล่ยนวิธีการสอสารและส่งขอมูลขาวสาร
                                            ื
                                            ่
                                                           ่
                                                       ้
                     ผ่านองค์กรพันธมิตรด้วยการฝึกอบรมกล่มบุคคล และกล่มท ี ่
                                                              ุ
                                                  ุ
    จากประสบการณ์การรณรงค์ “Love Food Hate   ผ่านการฝึกอบรมจะทาหน้าท่ส่งข่าวสารเก่ยวกับขยะอาหาร
                                                   ี
                                          ี
                                     ำ
 ึ
                                                     ี
 ิ
 ำ
                                                            ี
 ื
 Waste” ในสหราชอาณาจักรซ่งเร่มดาเนินการในปี 2007 เพ่อ  ไปยังบุคลอ่นๆ  จากผลการวิจัยพบว่าวิธีน้เป็นวิธีท่ได้ผล
                             ื
 สร้างความตระหนักเก่ยวกับประเด็นขยะอาหาร ในระยะ   คุ้มค่าต่อการเข้าถึงกลุ่มคนจำานวนมาก (WRAP, 2011)
 ี
 เร่มต้นมีการกล่าวถึงขยะอาหารในส่อน้อยมากและครัวเรือน
 ื
 ิ
 102                                                                         103
   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108