Page 87 - 067
P. 87
73
7) Total phenolic content
ก. อุปกรณ์เครื่องแก้วและสารเคม ี
1) เครื่องวัดสเปกโตรโฟโตมิเตอร์
2) หลอดทดลอง
3) บีกเกอร์
4) ปิเปต
5) Folin-Cioculteu’s phenol
6) 7% NaCO
3
7) กรดแกลลิก
ข. วิธีวิเคราะห ์
1) ปิเปตตัวอย่าง 0.25 mL ใส่ลงในหลอดทดลองขนาด 15 mL โดยสารละลายตัวอย่าง
้
จะต้องเจือจางให้อยู่ในปริมาณความเขมข้นที่สามารถตรวจวัดได้ด้วยเครื่องเครื่องวัดส
เปกโตรโฟโตมิเตอร์
2) ปิเปตน้้ากลั่น 3 mL ลงในหลอดทดลองที่มีสารละลายตัวอย่างอยู่
3) เติม Folin-Cioculteu’s phenol ลงในหลอดทดลองตัวอย่าง ปริมาณ 0.25 mL
4) เติม 7% NaCO 2.5 mL ลงในหลอดทดลอง จากนั้นผสมทั้งหมดให้เข้ากันอย่างดี
3
5) ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 30 นาที จึงน้าไปวัดด้วยเครื่องสเปกโตรโฟโตมิเตอร์
6) สารละลายมาตรฐานที่ใช้เป็นกรดแกลลิกที่เตรียมไว้ที่ความเข้มข้นต่าง ๆ เพอใช้เป็น
ื่
สมการเส้นตรงเป็นข้อมูลจากค่าความเข้มข้นและคาการดูดกลืนแสงของสารมาตรฐานในการค้านวณ
่
ความเข้มข้นในการค้านวณความเข้มข้นในตัวอย่างจากค่าการดูดกลืนแสงต่อไป
8) ปริมาณคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด (Total carbohydrate content)
ื่
ื่
จากการศึกษาเพอทราบปริมาณขององค์ประกอบหลักของซับสเตรตส้าหรับเป็นอาหารเพอ
ป้อนเข้าสู่กระบวนการหมักจะต้องมีการหาองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แก่ไขมัน โปรตีน และองค์ประกอบ
ื
อีกอย่างที่ส้าคัญคอคาร์โบไฮเดรต ซึ่งสามารถค้านวณได้จากการหักลบองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ไม่ใช่
คาร์โบไฮเดรตออกไป
การค้านวณ
ปริมาณของคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด = 100 – (ความชื้น+ไขมัน+โปรตีน+เถ้า+ฟีโนลิก)
9) Sulfate content
ก. อุปกรณ์เครื่องแก้วและสารเคม ี
1) Sulfacte cell test
- หลอดทดลองพร้อมน้้ายาส้าหรับท้าปฏิกิริยิ
- ผงแบเรียมไอออนส้าหรับท้าปฏิกิริยากับซัลเฟส (reagent SO -1K)
4
2) เครื่องวัดสเปคโตรโฟโตมิเตอร์รุ่น ฟาโร 300