Page 162 - 030
P. 162
162
ึ
ิ
่
่
ความว่า“และจงให้แกบรรดาหญงซงมะฮัรของนางด้วยความเต็มใจ แตถ้านาง
่
ิ
ี่
เหนชอบทจะให้ส่งหนงแกพวกเจ้าจากมะฮัรนั้นแล้วก็จงบรโภคส่งนั้นด้วยความ
็
ึ
ิ
ิ
่
่
เอรดอรอยและโอชา”(อันนสาอ :4)
ฺ
ิ
่
็
แตหากทายาทมีการพิพาทกันในประเด็นดังกล่าวจะน ากฎหมายใดมาปรบใช้กับกรณ ี
่
ั
ื่
ั
น้ จะน ากฎหมายอิสลามมาปรบใช้โดยให้ดะโต๊ะยุตธรรมเปนผู้พิจารณาคดก็ไม่ได้ เนองจากเรองการยก
ี
ื่
ี
็
ิ
ิ
่
ให้(ةبلها)ไม่อยูความหมายของมรดกทดะโต๊ะยุตธรรมอ านาจในการพิจารณาคดตามพระราชบัญญัตการ
ี
ี่
ิ
ึ
ั
ใช้กฎหมายอิสลามในจังหวัดปตตาน นราธวาส ยะลา และสตูล พ ศ. 2489 ซงแนนอนทสดจะสงผลตอ
่
ิ
ุ
่
ี
ี่
่
่
่
่
คูพิพาททั้งคูอย่างแนนอน
่
ี่
่
่
่
ั
ิ
2. มุสลิมสวนใหญนยมท าพินัยกรรมยกทรพย์สนของตนให้แกทายาทผู้ทมีสทธ ิ
ิ
ิ
ิ
รบมรดกของตนเอง เชนภรรยาบ้าง บตรบ้าง บดา มารดาบ้าง ซงขัดกับหลักกฎหมายอิสลามหากทายาท
ั
่
ึ
่
ุ
ั
ิ
่
ึ
่
ึ
ุ
คนอื่นๆไม่ยินยอม หรอก าหนดยกทรพย์สนให้บคคลอื่นเกนอัตราเศษหนงสวนสามของกองมรดก ซงก็
่
ิ
ื
ี
่
่
่
ขัดกับหลักกฎหมายอิสลามเชนเดยวกันหากทายาทไม่ยินยอม และเมื่อมีการพิพาทกันคูพิพาทอีกฝาย
ิ
หนงได้เปนผู้ไม่นับถือศาสนาอิสลามไปแล้ว ศาลโดยดะโต๊ะยุตธรรมไม่สามารถเข้ารวมเปนองค์คณะ
่
็
่
็
ึ
ี
ิ
ในการพิจารณาคดได้ เนองจากพระราชบัญญัตการใช้กฎหมายอิสลาม พ ศ .2489 มาตรา 3 ไม่ได้ให้
ื่
็
ี่
็
ึ
็
่
่
ี่
อ านาจไว้ จงเปนประเด็นว่า มรดกของผู้ตายทเปนมุสลิม ทายาทสวนใหญก็เปนมุสลิมไม่สามารถทจะ
น ากฎหมายอิสลามมาปรบบังคับใช้ได้ เพียงเนองจากทายาทบางรายได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น ดัง
ั
ื่
คดทศาลฎกาได้มีค าพิพากษาไว้ในวันท 25 กุมภาพันธ์ พ ศ . 2551 หมายเลขฎกาท 851/2551 ความ
ี่
ี
ี
ี่
ี
ี่
็
ี่
่
โดยสังเขปว่า ผู้ตายและผู้รองเปนอิสลามศาสนกและมีภูมิล าเนาอยูในเขตจังหวัดสตูล ผู้คัดค้านท 1 เคย
้
ิ
เปนอิสลามศาสนกและเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธกอนทเจ้ามรดก (ผู้ตาย) ท าพินัยกรรมแตงตั้งผู้รอง
่
ิ
็
้
ี่
่
ี่
ี่
้
็
่
และผู้คัดค้านท 1 เปนผู้จัดการมรดก ตอมาผู้รองและผู้คัดค้านท 1 ขอให้ตั้งตนเองเปนผู้จัดการมรดกของ
็
ิ
ี
ผู้ตาย คดมีปญหาต้องวินจฉัยในกฎหมายว่า คดน้ต้องบังคับตามพระราชบัญญัตว่าด้วยการใช้กฎหมาย
ิ
ั
ี
ี
็
ี
ิ
ิ
ื
ึ
ี
อิสลามในเขตจังหวัดปตตาน นราธวาส ยะลา และสตูล พ ศ. 2489 หรอไม่ เหนว่า แม้คดจะเกดข้นใน
ั
็
้
เขตจังหวัดสตูลและผู้รองซงเปนอิสล ามศาสนกเร่มต้นคดอย่างไม่มีข้อพิพาท โดยยื่นค ารองขอเปน
้
่
ึ
ี
็
ิ
ิ
ี่
็
ึ
่
ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมของผู้ตายซงเปนอิสลามศาสนกก็ตาม แตเมื่อมีการคัดค้านของผู้คัดค้านท
ิ
่
ี
็
ี
ี
1 ก็มีผลให้คดกลายเปนคดมีข้อพิพาท ตามประมวลกฎหมายวิธพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188 (4)โดยผู้
รองและผู้คั ดค้านมีฐานะเปนคูความ เมื่อปรากฏว่าผู้คัดค้านท ี่ 1 ซงมีฐานะเสมือนจ าเลยและมิใช ่
้
็
่
่
ึ
ิ
ึ
อิสลามศาสนก จงไม่ต้องด้วยมาตรา 3 ของพระราชบัญญัตว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัด
ิ