Page 279 - 024
P. 279
279
)) أ
27 ((
ความว่า “พึงทราบเถิดว่า ท่านทุกคนมีหน้าที่ และทุกท่านจะต้องรบผิดชอบ
ั
ต่อหน้าที่ของพวกท่าน ผู้น าก็มีหน้าที่ และต้องถูกถามถึงความรบผิดชอบของ
ั
ั
ั
เขา และคนหนึ่งก็มีหน้าที่ต่อครอบครว และต้องถูกถามถึงความรบผิดชอบ
ต่อครอบครัวเช่นเดียวกัน”
นอกจากนี้ ผลการศึกษาของ Noer Aini Rachman (2007: 3) พบว่า บรรดาอ ุ
ฺ
่
ั
ละมาอส่วนใหญเห็นด้วยกับการที่ผู้ชายจะมีภรรยาหลายคน แต่ต้องมีการจัดการในครอบครวที่ดี
ุ
ั
และไม่ท าให้ความมั่นคงของครอบครวแรกต้องสั่นคลอน นอกจากนี้บรรดาอละมาอยังให้
ฺ
ั
ความเห็นว่า การน าบทบัญญติดังกล่าวมาปฏิบัติในยุคสมัยปัจจุบันนั้นมีความแตกต่างจากยุคสมัย
ของท่านนบีมุฮัมมัด ในอดีตการมีภรรยาหลายคนนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดผลประโยชน์ใน
ิ
ด้านศาสนาและเพื่อแก้ปัญหาในสังคมจรง มิได้มีจุดประสงค์เพื่อสนองอารมณ์ความต้องการ
ส่วนตัว
3) สภาพเศรษฐกิจครอบครัวขาดความคล่องตัว
ผู้วิจัยมีความเห็นว่า ฐานะทางเศรษฐกิจของที่ศึกษาโดยรวมถือว่าอยู่ในระดับปาน
ิ
ั
กลาง แต่สภาพความคล่องตัวทางเศรษฐกิจก็ส่งผลต่อการบรหารครอบครวเช่นเดียว เนื่องจากการ
ื่
้
ให้ความเป็นธรรมในเรองต่างๆ ต้องอาศัยฐานความพรอมด้านเศรษฐกิจประกอบ หากสภาพ
ื่
ื่
ั
ทางการเงินของครอบครวดี การจัดสรรเรองต่างๆ ให้แก่สมาชิกก็จะด าเนินไปอย่างราบรนมาก
ยิ่งขึ้น สอดคล้องกับผลการวิจัยของ Hasan Basri (2009: Abstract) ซึ่งผลการวิจัยพบว่า “ความ
ั
ุ
รนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครวที่มีภรรยาหลายคนนั้นน้อยมากเมื่อเทียบกับครอบครวที่มีภรรยาคน
ั
ุ
เดียว ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของผู้น าครอบครวในการจัดการความรนแรงดังกล่าว สาเหตุของการเกิด
ั
ปัญหาในครอบครวที่มีภรรยาหลายคนนั้นมาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก โดยปัจจัยหลักที่
ั
ั
ุ
ก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รนแรงคือปัญหาที่มาจากด้านเศรษฐกิจของครอบครว” และสอดคล้องกับ
ั
ผลการศึกษาในพื้นที่ของ อบดุลเราะมัน เจะอารง (2546: 144) ที่พบว่า สาเหตุที่ภรรยามุสลิมใน
จังหวัดปัตตานีใช้สิทธิในการด าเนินการให้ขาดจากการสมรสส่วนใหญมีสาเหตุมาจากสามีไม่ให้
่
การอุปการะเลี้ยงดู
27 หะดีษบันทึกโดย al-Bukhāriy หะดีษหมายเลข 6605; Muslim: 3408, 4828