Page 194 - 024
P. 194
194
“เราไม่ได้ท าผิดอะไรนี่ เราคิดว่าเรายืนหยัดบนหลักการของศาสนามากกว่า จรงๆ แล้ว
ิ
เราไม่ต้องขออนุญาตเลยก็ได้ ทั้งคนที่หนึ่ง คนที่สอง เพราะว่าเรามีสิทธิ์ใช่ไหม แต่ว่า
เราก็อย่าใช่สิทธิ์นั้นให้มากเกินไป ต้องดูสภาพความเป็นอยู่ของเราด้วย มันยังมีอก
ี
หลายๆ เรื่องที่เราต้องจัดการ ต้องสะสาง” (คุณซุลกิฟลี, 5 ธันวาคม 2555)
“จากประสบการณ์ส่วนตัวผมคิดว่าการแอบไปมีก่อนแล้วค่อยบอกนั้นเป็นวิธีที่เสี่ยง
ไปหน่อย ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีที่ภรรยาคนที่หนึ่งยอมท าใจรบได้ ยังไงก็คงต้องมอง
ั
ั
ั
ความมั่นคงของครอบครวด้วย ถ้าลูกโตกันแล้วก็ต้องฟังความเห็นของลูกด้วย” (อบ
ดุลลอฮฺ, 1 กุมภาพันธ์ 2556)
แม้ในหลักการจะไม่ได้ในระบุว่าเป็นความจ าเป็นที่ต้องบอกกล่าวให้ภรรยาได้
รับทราบ แต่การรักษาความรู้สึกของคู่ชีวิตก็เป็นสิ่งที่ดี ส่วนรูปแบบหรือเทคนิคในการพูดคุยเจรจานั้น
เป็นสิ่งที่ผู้เป็นสามีควรศึกษาและหาเทคนิคการพูดคุยที่เหมาะสมกับภรรยาของตน ผู้ให้ข้อมูลก็ได้เล่า
ว่า
“…เป็นสามีภรรยากันมา ในเมื่อทุกอย่างเราบอกเขา แต่พอเรองนี้เราไม่บอกเขา ไม่ดี
ื่
แน่ โดยหลักการแล้วไม่ต้องบอกเขาที แต่โดยมารยาทคือเราอยู่ด้วยกันมา ใช้ชีวิต
ร่วมทุกข์รวมสุขกัน ทุกเรองเราบอกภรรยา แต่ท าไมไม่บอกบ้างเรองนี้ บางทีเรารว่า
ื่
่
ื่
ู้
ถ้าบอกแล้วเขารับไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆบอก ค่อยๆคุยกัน แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน ..
เทคนิคมันต้องมีครับ ถ้าไม่มีนี่ไม่ได้เลย กับปัญหาที่อาจจะเกิดตามมา ไม่มีใครอยาก
หลอกโกหกภรรยาที่ตัวเองรกหรอก ไม่มีใครคิดไม่ดีหรอก แต่ในเมื่อสิ่งที่เรา
ั
ต้องการกับสิ่งที่เขาต้องการมันต่าง เราก็อาจต้องเลือกทางออกจะที่ท าให้เราสองฝ่าย
เจ็บปวดน้อยที่สุด” (คุณอับดุลรอเซะ, 15 มกราคม 2556)
ี
“เขาก็พูดตรงๆ ไม่อ้อมเลยว่า “บังจะแต่งงานอกคนหนึ่ง” ตอนนั้นตกใจสุดๆ เหมือน
จะบ้าเลย เพราะไม่คิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายคนนี้จะท าให้พี่ไม่สบายใจได้ ตอนนั้นก็ชั่ง
ื
ใจระหว่างเรายอมออกจากชีวิตเขาไป ให้เขาไปมีใหม่อย่างสบายใจ หรอว่าเราควรจะ
อดทนต่อไป แต่คิดดูแล้วเราอยู่แบบนี้ดีกว่า ได้อยู่กับลูก ได้อยู่กับศาสนา เพราะที่
ผ่านมาเขาก็ดูแลเราดีมาตลอด เลิกกับเขาแล้วเราจะไปอยู่ยังไง ถ้าเราไปแล้วลูกจะ
ั
เป็นยังไง เดี๋ยวลูกจะไม่รกเรา นี่คือสิ่งที่ก๊ะกลัวมากๆ” (คุณมาซือนะ, 10 มกราคม
2555)

