Page 189 - 024
P. 189
189
์
ิ
ู้
ู้
ู้
ื่
“เรองความรสึกนี้ส าคัญมากเลย ผู้ชายต้องเข้าใจความรสึก ต้องแครความรสึกผู้หญง
่
ี
ั
ู้
ู้
ู้
ต้องละเอยดออนนิดหนึ่ง คนที่เป็นสามีต้องรจักสังเกต ต้องรบรความรสึกของภรรยา
ให้ดี สังเกตจากค าพูด สีหน้า ท่าทาง ถ้าสถานการณ์เรมตึงเครยดก็ต้องคิดแล้วว่าต้อง
ิ่
ี
ท ายังไง” (คุณเฆาะซาลี, 25 มกราคม 2556)
“คนแรกเครียดช่วงหนึ่ง เครียดมากด้วย เขาบอกว่ายอมอะยอมแล้ว จะมีก็มีไป แต่ถ้านิ
่
ู้
ิ
ั
กาหฺเสร็จวันไหนก็ไม่ต้องบอกเขา คือ ถึงเขาจะยอมแต่พอเอาเข้าจรง ความรสึกก็ยังรบ
ไม่ได้ ต้องใช้เวลาซักพักเหมือนกันกว่าจะให้เขาท าใจได้ ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน
ได้น่ะ เพราะว่าช่วงนั้นพอนิกาหฺได้ซักสามเดือนก็พามาที่บ้าน เขาก็คุยกันสองคนได้
ไม่ได้มีอะไร เขาก็เริ่มรับได้แล้ว” (คุณซุลกิฟลี, 5 ธันวาคม 2555)
“ปกติเขาจะไม่ใช่คนโมโหรายอยู่แล้ว เขาจะเป็นคนเก็บอารมณ์ได้ดี แต่ผมเคารพใน
้
้
ความอดทนของเขามากเลยนะ เขาจะไม่ค่อยแสดงความเศราโศกเสียใจให้ใครเห็น แต่
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นชัดเจนคือ เขาอยู่กับศาสนามากขึ้น จากเดิมทีเวลาว่างๆ เขาก็จะไป
นั่งท าผมที่ราน ไปเที่ยวบ้าง ไปหาเพื่อนฝูงบ้าง แต่ช่วงหลังนี้เขาจะดูนิ่งกว่าเดิมมาก
้
และก็เข้าหาศาสนามากขึ้น เขาจะชอบอ่านอัลกุรอาน” (อับดุลลอฮฺ, 1 กุมภาพันธ์ 2556)
สภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นทั้งในครอบครัวที่ภรรยาคนที่หนึ่งยินยอมโดยสมัครใจและ
ยินยอมเชิงบังคับ ซึ่งในอกมุมหนึ่งผู้ให้สัมภาษณ์ก็ยังคงยืนยันว่าการไม่บอกให้ภรรยารบทราบก็ย่อม
ั
ี
เป็นสิ่งที่กระท าได้ ไม่ผิดหลักการแต่ประการใด เพราะถือเป็นสิทธ์ของสามีในการกระท าสิ่งดังกล่าว
ื
ิ
ู้
“ความรสึกที่ผู้หญงไม่พอใจเป็นเรองธรรมดา เราจะบอกหรอไม่บอกคนแรกก็ได้ ไม่
ื่
ผิดหลัก เพราะว่าขนาดภรรยาของท่านนบีเองก็มีความรสึกแบบนี้เหมือนกัน ตอน
ู้
ท่านนบีแต่งกับท่านหญิงอาอิชะฮฺ นางเคาะดีญะฮฺได้เสียชีวิตแล้ว มันเป็นคนละยุคแล้ว
วันไหนที่ท่านนบีนึกถึงภรรยาคนแรกของท่าน ท่านก็จะพูดถึงความดีของนางให้อาอ ิ
ชะฮฺฟัง วันไหนที่คิดถึงมากๆ ก็จะเชือดแกะและมอบส่วนที่เป็นเนื้อให้กับญาติๆ ของ
ท่านหญงเคาะดีญะฮฺ ท่านหญงอาอชะฮฺก็แสดงปฏิกิรยาไม่ค่อยพอใจที่ถึงจะเสียชีวิต
ิ
ิ
ิ
ิ
ู้
ไปแล้วนบีก็ยังพูดถึง แสดงว่าภรรยาของเราะสูลเองก็มีความรสึกอย่างนี้ เพราะว่าต่าง
คนต่างสร้างความดีกันเยอะ” (คุณซุลกิฟลี, 5 ธันวาคม 2555 )