Page 470 - 022
P. 470
470
ี่
ี
ุ
ิ
บทบาทของสตรไทยมสลมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แทนทจะเปนไปในเชงบวกอย่าง
ิ
็
้
สรางสรรค์ตามทควรจะเปนกลับกลายเปนการสรางรอยราวและความแตกแยกในสังคมให้มากข้น
ึ
้
็
ี่
็
้
ิ
ิ
ุ
็
ี
ประเด็นที่ 2 ความเหนของผู้ทรงคณวุฒในประเด็นบทบาทของสตรไทยมสลมในสาม
ุ
ิ
ึ
ี่
ี
จังหวัดชายแดนภาคใต้ทจะต้องส่งเสรมให้มการพัฒนาข้น
จากการส ารวจดผลการวิจัยเชงปรมาณอย่างละเอยดในบทบาทย่อยต่างๆ ในแต่ละด้าน
ู
ิ
ิ
ี
ี
ิ
ี่
็
ี
ิ
ผู้ทรงคณวุฒมความเหนว่า มบางบทบาททมผลการวิจัยในการปฏบัตตามเศาะหาบยาตอยู่ในระดับ
ิ
ี
ี
ุ
ี
ู
ี่
ึ
่
ื
ึ
น้อยหรอระดับปานกลาง ซงสมควรทจะต้องส่งเสรมให้มการพัฒนาให้สงข้นดังต่อไปน้ ี
ิ
ี่
ั
2.1 บทบาทในการร่วมรบฟงคฏบะฮ์และละหมาดวันศกรทมัสยิด
ั
ุ
ุ
์
ผู้ทรงคณวุฒส่วนใหญ่เหนว่า สตรไทยมสลมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมรบฟง
ั
ุ
็
ุ
ิ
ี
ั
ิ
่
ึ
์
ี่
ุ
ี
ุ
ิ
คฏบะฮ์และละหมาดวันศกรทมัสยิดอยู่ในระดับน้อย ( = 1.44) ซงท าให้สตรมสลมขาดโอกาสท ี่
ุ
ู
ั
จะได้รบฟงคฎบะฮ์หรอการเทศนาธรรมทดๆ ในวันศกรได้ ทั้งน้ ีเพื่อทจะรบรข่าวสารในรอบ
ี
ี่
้
ั
ี่
ื
ุ
ั
์
ุ
ื
ี่
ึ
้
ู
ี
์
ุ
ู
ิ
ื
สัปดาห เพิ่มพูนความรหรอข้อตักเตอนต่างๆ ทจะช่วยจรรโลงจตใจพวกนางให้มคณธรรมสงข้นได้
ี
ี
ี
ี่
ทั้งๆ ทปรากฏหลักฐานอย่างชัดเจนว่า มเศาะหาบยาตในยุคสมัยของท่านนบ เข้าร่วมรบฟง
ั
ั
ุ
ี
ุ
ุ
์
คฎบะฮ์และละหมาดญมอัตในวันศกรทมัสยิดของท่านนบ อย่างคับคั่ง
ี่
ุ
2.2 บทบาทในการส่งเสรมและสนับสนนการละหมาดญะมาอะฮ์ 5 เวลาทมัสยิด
ี่
ิ
ุ
ิ
ิ
็
ุ
ผู้ทรงคณวุฒส่วนใหญ่เหนว่า สตรมสลมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มบทบาทในการ
ี
ี
ิ
ี่
ุ
ี่
ส่งเสรมสนับสนนและเข้าร่วมกิจกรรมละหมาดญะมาอะฮ์ 5 เวลาทมัสยิดยังน้อย ทั้งๆ ทสังคม
ู
ี
ุ
ิ
ิ
มสลมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เปดโอกาสให้สตรออกส่สังคมภายนอกค่อนข้างมาก แต่กลับ
ิ
ี่
ี
ไม่ส่งเสรมให้สตรเข้าร่วมกิจกรรมละหมาดหมาดญะมาอะฮ์ทมัสยิดเท่าทควร
ี่
ึ
ุ
ี่
ิ
ื
เมอวิเคราะหถงสาเหตทสังคมมสลมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ส่งเสรมหรอ
์
ื่
ุ
ิ
ุ
์
ั
ั
ุ
ุ
สนับสนนให้สตรเข้าร่วมรบฟงคฏบะฮ์วันศกร ละหมาดญมอัตในวันศกร และละหมาดญะมาอะฮ์ 5
ี
ุ
ุ
เวลาทมัสยิดเท่าทควร ผู้ทรงคณวุฒมความเหนว่า น่าจะมาจากอทธพล 3 ประการ คอ 1) แนว
ี
ี่
ี่
ิ
ิ
ุ
ื
ิ
็
ิ
ี่
ี
คดมัซฮับหันบะลย์ 2) บรบททางสังคมในพื้นททไม่ค่อยให้ความส าคัญกับการละหมาดญะมาอะฮ์
ิ
ี่
ึ
ี่
่
ทมัสยิดมากนัก ซงไม่ใช่เฉพาะสตรเท่านั้นแม้แต่ผู้ชายเองก็มจ านวนน้อยทไปละหมาดญะมาอะฮ์ 5
ี
ี
ี่
เวลาทมัสยิด 3) ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหะดษทไม่สนับสนนให้สตรไปละหมาดทมัสยิด
ี่
ี่
ุ
ี
ี่
ี
ี่
ี่
ิ
ุ
ี
ั
ส าหรบสาเหตทมัซฮับหันบะลย์ไม่ส่งเสรมให้สตรออกจากบ้านไปละหมาดทมัสยิดเพราะ
ี
ึ
เกรงว่าจะเกิดฟตนะฮ์แก่พวกนาง รวมถงการละหมาดอดด้วย เปนทน่าสังเกตว่า อมาม อบู หะน ี
็
ี่
ิ
ิ
ี
ี
ี่
ี่
ี
ุ
ี
ี
ฟะฮ์เองไม่ค่อยเหนด้วยทจะอนญาตให้สตรออกไปละหมาดอดทั้งๆ ทยอมรบว่าในอดตท่านนบ
็
ั