Page 450 - 022
P. 450
450
นอกจากน้อัลกุรอานได้เล่าในเชงบวกเกี่ยวกับการแสดงความเหนและการถกเถยงของเศาะ
ิ
ี
็
ี
1
ี
ื่
ี
่
์
ี
ึ
์
หาบยะฮ์ชาวอันศอรท่านหนงกับท่านนบ ในเรองเกี่ยวกับสามของนางกล่าวศฮาร ต่อนาง ดัง
ิ
ปรากฏในสเราะฮ์อัลมญาดะละฮ์ว่า
ุ
ู
ี่
ี
่
้
้
้
ิ
ั
้
ฺ
้
ความว่า “โดยแนนอน อลลอฮทรงไดยนถอยค าของสตรทก าลังโตแยงกับเจาใน
ุ
ั
ี
ฺ
ฺ
ื่
ั
้
้
้
ิ
เรองสามของนางและนางไดรองทกขตออลลอฮ และอลลอฮนั้นทรงไดยนการ
์
่
็
ั้
ฺ
ิ
้
ู
้
้
้
ั
็
้
้
ตอบโตของเจาทงสอง แทจรงอลลอฮนั้นเปนผูไดยน ผูทรงรเหนเสมอ” (Al-
้
ิ
2
Mujadalah 58: 1)
็
ี
จากโองการข้างต้นเหนภาพชัดเจนว่าศาสนาอสลามให้เกียรตต่อความเหนของสตรและนาง
ิ
็
ิ
ี่
ี
ี
มสทธเสรภาพอย่างเต็มทในการแสดงความคดเหนทั้งทเกี่ยวกับตนเองและสาธารณะ ท่านนบ
ิ
ิ
็
ิ
ี
ี่
ื
ึ
ั
เองเคยขอค าปรกษาหารอและขอค าช้ ีแนะเพื่อหาทางออกในกิจการของรฐจากภรรยาของท่าน
ิ
ี
ุ
ดังเช่นในเหตการณสนธสัญญาหดัยบยะฮ์ หลังจากได้ลงนามในสนธสัญญาแล้ว ท่านนบ ได้สั่ง
ุ
์
ิ
ี
ี
ึ
ให้บรรดาเศาะหาบะฮ์เชอดสัตว์และโกนศรษะเพื่อยุตการท าอมเราะฮ์ ท่านนบ ได้สั่งถงสามคร้ง
ี
ุ
ั
ิ
ื
ี
ี
แต่ไม่มเศาะหาบะฮ์ท่านใดปฏบัตตาม ทั้งน้อาจเปนเพราะว่าอารมณค้างทไม่พอใจต่อเน้อหาสาระ
ิ
์
ิ
ี่
็
ื
็
ู
ิ
ี่
ื
ี
ี่
ิ
สนธสัญญาทดเหมอนว่าฝายมสลมเสยเปรยบเปนอย่างมาก อกทั้งผิดหวังทไม่สามารถเข้าไปเยี่ยม
ุ
ี
่
ี
ุ
ี
ึ
ี
ิ
วิหารกะอ์บะฮ์ในคร้ ังน้ ท่านนบ จงเข้าไปปรกษากับท่านหญงอมม์ สะละมะฮ์ ด้วยความฉลาด
ึ
้
ื่
ปราดเปรองและแหลมคมในปญญา นางได้เสนอแนะต่อท่านนบ โดยกล่าวว่า “โอนบของ
ี
ั
ี
ั
ิ
่
ฺ
่
ื
์
้
่
ี
่
้
พระองคอลลอฮ ทานเต็มใจทจะท าอยางน้ไหม คอ ทานเดนออกไปโดยไมตองพูดกับใครแมแตค า
่
ี่
่
ี
ี
่
เดยว แลวทานไปเชอดสตวของทานและเรยกชางผมของทานมาโกนศรษะของทาน” ท่านนบ
้
ั
่
ื
ี
่
ี
์
่
ี่
ี
ิ
ี่
ื
ุ
ได้ท าตามทอมม์ สะละมะฮ์เสนอแนะกล่าวคอ ท่านนบ เดนออกจากทพักโดยไม่พูดกับใคร
ี
ื่
ื
จนกว่าได้เชอดสัตว์ของท่านและเรยกช่างผมมาโกนศรษะของท่าน เมอบรรดาเศาะหาบะฮ์เหน
็
ี
ุ
ิ
ิ
ี
ี
ิ
ุ
ิ
ท่านนบ ปฏบัตเช่นนั้น ทกคนต่างก็เร่งรบแย่งกันปฏบัตตามท่านนบ จนเกือบเกิดเหตการณ ์
ี
กระทบกระทั่งระหว่างกัน (Bukhari: 2731-2732)
1
ี
ี่
ื
ึ
ิ
ี
ศฮาร ( ) หมายถง การทสามกล่าวว่า ร่างกายส่วนใดส่วนหนงหรอทั้งหมดของภรรยาตนเองมความละม้าย
่
์
ึ
์
ึ
ึ
ี่
็
ี
็
ี
คลายคลงกับร่างกายของสตรทเปนมะหรอมของฝายสาม การกล่าวเช่นน้เปนวิธการหย่าแบบหนงในอดตก่อน
ี
่
ี
ี
่
ิ
อสลาม (Wazarah al-’Aawqaf wa al-Shu’un al-Islamiyah, 1993: 8)
2 ดการอรรถาธบายโองการน้เพ่มเตมใน Al-Tabari, 2001: 22/446-448.
ิ
ิ
ิ
ี
ู