Page 363 - 022
P. 363
363
ี
ิ
ิ
็
ั
ุ
ื่
่
ึ
ุ
็
คร้งหนงมรายงานว่า อบู ฮรอยเราะฮ์และอบน อับบาสมความเหนไม่ลงรอยกันในเรองอด
ี
ี่
ี
ี
็
ุ
ดะฮ์ของสตรทสามเสยชวิตในขณะทตั้งครรภ์ อบู ฮรอยเราะฮ์มความเหนว่านางสามารถแต่งงานได้
ี
ี
ี่
็
ี
ี่
ี
ุ
ี
ี่
ื
ิ
ิ
ุ
็
ี่
ทันทหลังจากคลอดบตรแล้ว ในขณะทอบน อับบาสเหนว่าจะต้องถออดดะฮ์ทมระยะเวลาทยาว
ี
ื่
ิ
ุ
ี่
ิ
ทสด จนกระทั่งทั้งสองได้ไปถามท่านหญงอมม์ สะละมะฮ์เพื่อให้วินจฉัยในเรองน้ ท่านหญงอมม์
ุ
ุ
ิ
ี
ิ
ี
ิ
ุ
ุ
ี
สะละมะฮ์ได้กล่าวว่า นางสบัยอะฮ์ บนต์ อัลหารษคลอดบตรออกมาหลังจากสามของนางเสยชวิต
่
ึ
ื
ึ
ี่
ี
ไป 15 วัน แล้วมผู้ชายสองคนเข้ามาส่ขอแต่งงานกับนาง นางจงเลอกทจะแต่งงานกับผู้ชายจากหนง
ู
ในสองนั้น ส่วนผู้ชายทไม่ถกนางเลอกเกิดความเสยดายนางจงได้กล่าวแก่นางว่า “เธอยังไมหะลาล
ู
ื
ี
่
ึ
ี่
ทจะแตงงาน” นางจงเข้าไปถามท่านนบ ซงท่านนบ ได้กล่าวแก่นางว่า “แทจรงเธอหะลาล
ึ
้
ี
่
่
ี่
ิ
ี
ึ
ี่
แลว จงแตงงานกับบุคคลทเธอปรารถนา” (Ibn Hanbal: 26658)
่
้
1
ิ
ี่
ิ
ิ
ี
ุ
ื่
ิ
ี
ุ
ท่านหญงอมม์ สะละมะฮ์ได้ผลตลกศษย์ทมชอเสยงหลายท่าน เช่น สลัยมาน อบน ยะสาร
ุ
ู
ิ
ู
็
่
ึ
็
ื่
ึ
่
ู
ี่
็
้
ี
ื
( ) ซงเปนผู้รทน่าเชอถอสงส่งคนหนง เปนนักฟกฮ์และจ าหะดษเปนจ านวนมาก เสยชวิตใน
ี
ี
ึ
ุ
ิ
ี
่
ี
ุ
ี่
ป ฮ.ศ. 107 (Ibn Sa‘d, 2001: 7/173) สะอด อบน อัลมสัยยับ เปนผู้รทอยู่แนวหน้าคนหนงแห่งนคร
็
ู
้
ี
ี
ี
ิ
ี
ั
็
ี
มะดนะฮ์ อกทั้งได้รบฉายาเรยกว่าเปนนักฟกฮ์ของบรรดานักฟกฮ์ เสยชวิตในป ฮ.ศ. 94 (Ibn Sa‘d,
ี
ิ
ื่
2001: 7/121, 143) อบู สะละมะฮ์ อบน อับดลเราะหมาน อบน เอาฟ ซงเปนนักฟกฮ์ทน่าเชอถอ จ า
ื
์
่
ึ
ิ
ุ
์
ิ
ี่
ุ
ิ
ุ
็
ี
ี
ี
ี
ี
็
็
หะดษเปนจ านวนมากและเคยด ารงต าแหน่งเปนผู้พิพากษาแห่งนครมะดนะฮ์ เสยชวิตในป ฮ.ศ. 94
่
ี
ิ
็
ุ
ึ
ั
(Ibn Sa‘d, 2001: 7/154, 156) อบู มัยมูนะฮ์ อดตทาสรบใช้ของท่านหญงอมม์ สะละมะฮ์ ซงเปนนัก
ฺ
ี
ิ
ุ
ิ
ี
ุ
ี
กอร ( ) แห่งนครมะดนะฮ์ (Ibn Sa‘d, 2001: 7/293) อับดลลอฮ อบน รอฟอ์ ( ) อดต
็
ี
่
ี
ี่
ึ
ทาสรบใช้ของท่านหญงอมม์ สะละมะฮ์เช่นกัน ซงเปนบคคลทน่าเชอถออกทั้งจ าหะดษเปนจ านวน
ั
ุ
ุ
ื่
ิ
็
ื
มาก (Ibn Sa‘d, 2001: 7/293)
ิ
้
มรายงานว่ามัรวาน อบน อัลหะกัมได้กล่าวในเชงยกย่องความรของท่านหญงอมม์ สะละ
ี
ุ
ิ
ิ
ุ
ู
้
ื่
่
ื่
ั
้
้
ื่
มะฮ์ว่า “พวกเราไปถามปญหาขอของใจในเรองศาสนาจากบุคคลอนไดอยางไร ในเมอบรรดา
ี
่
ภรรยาของทานนบ ี ี ิ ่ ิ ุ
ยังมชวตอยูกับพวกเรา” และเขาได้ส่งคนไปถามท่านหญงอมม์ สะละมะฮ์
(Ibn Hanbal: 26696, 26741)
ื่
ุ
ู
ิ
ิ
ี
้
ี
ิ
ในบางเรองท่านหญงอมม์ สะละมะฮ์มความรมากกว่าท่านหญงอาอชะฮ์ มรายงานว่าคร้ ัง
็
ุ
ฺ
่
็
ุ
ึ
หนงอับดลลอฮ อบน อัลซบัยรมความเหนว่า ท่านนบ ได้ละหมาดสนัตสองรอกอัตหลังละหมาด
ิ
ี
์
ุ
ุ
ี
ุ
ึ
์
่
็
ี
ี
ุ
็
ี
อัศร ซงรบรายงานหะดษเรองน้จากอบู ฮรอยเราะฮ์ โดยทอบู ฮรอยเราะฮ์รบรายงานหะดษน้จาก
ื่
ั
ี่
ั
ี
ท่านหญงอาอชะฮ์อกทอดหนง เมอมการถามท่านหญงอาอชะฮ์โดยตรงถงเรองน้ นางบอกผู้ถามให้
ิ
ี
ื่
ึ
ึ
่
ิ
ื่
ี
ิ
ิ
ี
1 ชอัยบ์ อัลอัรนะวูตและคณะวินจฉัยว่าเปนหะดษทมอสนาดทศอฮหตามเงอนไขของบคอรย์และมสลม (Ibn
ี
ี
ิ
็
ี่
ี
ี่
ุ
ุ
ุ
ี
์
ิ
ิ
ื่
Hanbal, 2001: 44/262)