Page 162 - 022
P. 162
162
ู
้
ี่
ั
ึ
ิ
ื
่
รจักในนาม “สนธสัญญาอะเกาะบะฮ์คร้งท 2” (Ibn Hisham, 1990: 2/88) ส่วนหนงของเน้อหาท ี่
ื
ั
ิ
ี
ส าคัญในการให้การสัตยาบันในคร้งน้ก็คอ หากท่านนบ อพยพไปยังนครมะดนะฮ์มสลมชาวมะ
ี
ุ
ี
ี
ื
้
ื
ุ
ี่
ดนะฮ์จะต้องให้การช่วยเหลอและปกปองค้มครองท่านนบ เสมอนทพวกเขาได้ปกปองตัวของ
้
ี
พวกเขาและครอบครวของพวกเขาเอง (Al-Bayhaqi, 1988: 2/443)
ั
ิ
ี
ึ
จากพันธสัญญาในค าสัตยาบันน้ท าให้มสลมชาวมะดนะฮ์ทั้งชายและหญงจงมความส านก
ุ
ึ
ี
ี
ิ
ั
ื
ี่
ทจะต้องช่วยเหลอและปกปองค้มครองท่านนบ ทั้งด้วยก าลังทรพย์และก าลังกายอย่างสด
ี
้
ุ
ุ
ี
ความสามารถแม้กระทั่งจะต้องแลกกับชวิต
ื่
ิ
ึ
ี
ี
ี
ิ
เมอท่านนบ เดนทางมาถงนครมะดนะฮ์ ชาวมะดนะฮ์ทั้งชายและหญงออกมาต้อนรบ
ั
ั
ี่
ี
ท่านนบ ด้วยความยินดียิ่ง (Bukhari: 3925) และต่างก็แย่งกันทจะรบท่านนบ มาเปนแขกของ
็
ี
ุ
ี
ี
ิ
ี
ตนเอง จนในทสดเกียรตดังกล่าวน้ตกเปนของครอบครวอบู อัยยูบ อัลอันศอรย์ ท่านนบ เข้าไป
ี่
็
ั
พ านักอยู่บ้านของอบู อัยยูบเปนเวลาระยะหนงจนกว่ามัสญดอันนะบะวีย์และบ้านของท่านนบ
็
ึ
่
ิ
ี
สรางเสรจ จงย้ายออกจากบ้านของอบู อัยยูบ (Ibn Qayyim, 1998: 3/52-55) ในรายงานหะดษบท
็
ึ
ี
้
ึ
่
ี
ี่
หนงทบันทกโดยอัลหากิมและอัลฏอบารอนย์เล่าว่า บ้านของอบู อัยยูบเปนบ้านลักษณะสองชั้น
็
ึ
ี
ทั้งอบู อัยยูบและอมม์ อัยยูบ ยอมเสยสละบ้านของตนเองโดยให้ท่านนบ อยู่ชั้นบน ส่วน
ี
1
ุ
ครอบครวอบู อัยยูบอยู่ชั้นล่าง นอกจากน้อมม์ อัยยูบยังท าหน้าทในการจัดส ารบอาหารให้แก่ท่าน
ั
ี
ั
ุ
ี่
2
ี
นบ ด้วย (Al-Hakim, 2002: 3/521 ; Al-Tabarani, n.d.: 9/119-120)
ี
เศาะหาบยาตไม่ได้มส่วนร่วมช่วยเหลอและปกปองท่านนบ ในภาวะปกตเท่านั้น แม้แต่
ี
้
ิ
ื
ี
ในยามสงครามหรอในสมรภมสงครามพวกนางก็พรอมทจะอทศตนช่วยเหลอและปกปองท่านนบ ี
ื
ิ
ี่
้
ื
้
ุ
ิ
ู
ิ
อย่างสดความสามารถแม้กระทั่งจะต้องเสยงกับชวิต ในรายงานของอบน สะอด์ ซงรบจากอบน ุ
ึ
ั
่
ุ
ิ
ุ
ี
ี่
ฺ
1
3
ุ
ี
ู
ุ
้
ิ
ุ
ี
อมัรเล่าว่านางอมม์ อมาเราะฮ์พรอมกับสาม และลกของนาง เข้าร่วมในสงครามอหด เดมทนางท า
ุ
ุ
1 ภรรยาของอบ อัยยูบซงเปนบตรของก็อยส อบน อัมร อบน อัมรอ์ อัลก็อยส ( ) จาก
์
ี
์
็
ุ
ุ
ึ
ู
์
ุ
่
ิ
ิ
ิ
เผ่าค็อซรอจญ์ (Ibn al-Athir, 1994: 7/291)
็
2 อัลหากิมวินจฉัยว่าเปนหะดษทศอฮหตามเงอนไขของมุสลม (Al-Hakim, 2002: 3/521)
ี่
ี
์
ิ
็
ี
ื่
ิ
3
ในรายงานของอบน สะอด์ สามของนางในทน้หมายถงฆอซยะฮ์ อบน อัมร (Ibn Sa‘d, 1990: 8/303) ในขณะ
ี่
ิ
ิ
์
ุ
ึ
ี
ี
ฺ
ุ
ิ
ึ
ี
ี่
ี
ุ
ุ
ี
ิ
์
ี่
ุ
ิ
ทอบน อับดลบัรร (2006: 2/590) และ อบน อัลอะษร (1994: 7/360) รายงานว่า สามของนางในทน้หมายถงซัยด์
อบน อาศม ผู้วิจัยเหนว่าทั้งสองท่านเข้าร่วมในสงครามอหดด้วย (ดเพ่มเตมใน Ibn Sa‘d, 2001: 4/336) แต่
ู
ิ
ิ
็
ุ
ุ
ิ
ิ
ุ
็
่
ุ
ุ
ึ
ิ
ในช่วงสงครามอหดนั้นนางน่าจะเปนภรรยาของฆอซยะฮ์ อบน อัมรแล้ว ซงสอดคล้องกับความเหนของอบน ุ
็
ิ
์
ุ
ิ
ี
ี่
ั
ี่
ิ
์
หะญัรทน ารายงานจากอมม์ อมาเราะฮ์เล่าว่าในช่วงเหตุการณสนธสัญญาอาเกาะบะฮ์คร้งท 2 นั้นสามของนาง
ุ
ุ
ื
คอฆอซยะฮ์ อบน อัมร ได้บอกแก่ท่านนบ ว่ามผู้หญงสองคนประสงค์ทจะให้การสัตยาบันต่อท่านนบ
ี
ี
์
ี
ี่
ิ
ุ
ิ
ิ
ี
ด้วย และท่านนบ ตอบว่า ฉันไม่จับมอกับผู้หญง (Ibn Hajar, 1853: 5/189)
ื
ิ